เตรียมสร้างจุดชมวิวแลนด์มาร์คแห่งใหม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินหน้าเนรมิต “สกายวอล์กและกระเช้าลอยฟ้าลำตะคอง” ทุ่ม 300 ล้าน 3 จุดที่ “เขายายเที่ยง-เขาเขื่อนลั่น-เขาขนานจิต” เตรียมผลักดันเป็นแลนมาร์คท่องเที่ยวแห่งใหม่ของประเทศ ต่อยอดพัฒนาพื้นที่ของราชการและชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร คาเฟ่ ที่พัก เชื่อมโยงการท่องเที่ยวของการเป็นเมือง 3 มรดกยูเนสโกของโคราช
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมถึงนายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และนางวัชรี ปรัชญานุสรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา
ได้เดินทางลงพื้นที่สำรวจโครงการสร้างจุดชมวิวแห่งใหม่ “สกายวอล์ก และกระเช้าลอยฟ้าลำตะคอง” เพื่อสำรวจดูแนวทางการพัฒนา SkyWalk บริเวณลำตะคอง เขายายเที่ยง-เขาเขื่อนลั่น-เขาขนานจิต ให้เป็น LANDMARK ที่บริเวณอ่างพักน้ำตอนบนเขายายเที่ยง โรงไฟฟ้าลำตะคลองชลภาวัฒนา อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ได้กล่าวว่า “โปรเจ็กต์สร้าง “สกายวอล์กและกระเช้าลอยฟ้าลำตะคอง” เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา ที่สอดรับกับการพัฒนาเมืองอีกทางหนึ่ง เพราะมีอุทยานธรณีที่มีคุณค่าถึงอุทธยานธรณีโลกแล้ว การสร้างสกายวอล์กลำตะคองจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ เป็นจุดชมวิวที่งดงามอีกแห่งของเมืองไทยที่ทำให้เรื่องราวทางธรณีวิทยาสามารถสัมผัสได้ง่ายขึ้นผ่านการท่องเที่ยว บนจุดชมวิวสามารถมองเห็นเขื่อนลำตะคอง”
“และเห็นความหลากหลายในความงดงามของภูมิประเทศ เป็นมองเห็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและคมนาคมของเมืองไทยผ่านมอเตอร์เวย์และรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่กำลังเร่งก่อสร้าง และเมื่อมีการเชื่อมจุดชมวิวต่าง ๆ ด้วยกระเช้าลอยฟ้า ตั้งแต่โรงไฟฟ้าพลังน้ำลำตะคอง เขายายเที่ยง เขาพริก ก็เท่ากับว่าเราสามารถรวมเอาความงดงามและคุณค่าในภูมิประเทศมาผนวกร่วมเข้ากับการท่องเที่ยวได้อย่างลงตัว”
“เพียงแต่การออกแบบและก่อสร้างต้องวางอยู่บนรากฐานของการไม่กระทบสภาพความเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น A ของผืนป่าลำตะคอง ต้องมีกิจกรรมและจุดรองรับต่างๆ ในการเชื่อมโยงสองฝั่งลำตะคองเข้าด้วยกันของกระเช้าไฟฟ้า ดังนั้นการผลักดันให้เกิดสกายวอล์กต้องผ่านการคิดและการคำนึงถึงการไม่ไปกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด และหากทำสำเร็จเมื่อไร โคราชและเมืองไทยจะมีแลนด์มาร์กทางการท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เต็มไปด้วยความสวยงามและมีคุณค่าที่ใครต่อใครควรเดินทางมาเที่ยวชมและศึกษาเรียนรู้”
นางสาวสุดาวรรณ กล่าวอีกว่า “และยังพร้อมส่งเสริม แหล่งท่องเที่ยวนครราชสีมาเมือง 3 มรดกยูเนสโก ว่าในมิติของการท่องเที่ยว โคราชเป็นเมือง 3 มรดกยูเนสโกที่มีคุณค่าต่อคนโคราช ตลอดจนชาวไทยทุกคน และยังรวมไปถึงมีคุณค่าความสำคัญถึงระดับโลก การมีภูมิประเทศและระบบนิเวศทางธรรมชาติหลากหลายแบบขนาดนี้ ทำให้ทุกคนรู้จักถึงคุณค่าของพื้นที่ในลุ่มน้ำลำตะคองของโคราช ครอบคลุมทั้ง 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสีคิ้ว สูงเนิน ขามทะเลสอ อำเภอเมืองนครราชสีมา และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ รวมกันเป็นอุทยานธรณีโคราช ซึ่งได้รับการประกาศเป็นอุทธยานธรณีโลกโคราช (Unesco Global Geopark) จากองค์การยูเนสโกไปอย่างสมกียรติให้คนไทยภาคภูมิใจ”
“ในเรื่องการท่องเที่ยว เมื่อรวมกับพื้นที่ที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกไปก่อนล่วงหน้า คือ “ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่” มรดกโลกทางธรรมชาติ และ “สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช” ที่เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลโลก ทำโคราชเต็มไปด้วยเรื่องราวและคุณค่าทางธรรมชาติและธรณีวิทยาอันนำศึกษาเรียนรู้ โดยกระจายตัวอยู่ในความหลากหลายในพื้นที่ทั้ง 39 แหล่ง”
“และเมื่อนำมาประชาสัมพันธ์ผ่านการท่องเที่ยวจะยิ่งเป็นการเพิ่มความรู้และความเพลิดเพลินให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก แต่ละแห่งไม่เพียงแค่เรื่องราวของสัตว์ดึกดำบรรพ์ ยังมีสภาพภูมิประเทศที่งดงามแปลกตา และได้รับการพัฒนาให้เหมาะกับการเที่ยวได้จริง มีการต่อยอดไปถึงการพัฒนาพื้นที่ของราชการและชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร คาเฟ่ ที่พัก พูดได้ว่าคุณค่าของการเป็นเมือง 3 มรดกยูเนสโกของโคราชส่งผลในด้านการพัฒนาความรู้ วิทยาการ และปรับเปลี่ยนไปสู่เม็ดเงินในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก” นางสาวสุดาวรรณ กล่าว
ด้านนายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า “จังหวัดนครราชสีมามีโครงการผลักดันพื้นที่ก่อสร้างสกายวอล์คทั้งหมด 3 จุด ประกอบด้วยเขายายเที่ยง เขาเขื่อนลั่น และเขาขนานจิต อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งทั้ง 3 จุดที่ “เขายายเที่ยง-เขาเขื่อนลั่น-เขาขนานจิต” ใช้งบประมาณ 300 ล้านบาท ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนทำการศึกษา EIA ให้เสร็จสิ้นก่อน ซึ่งหากสามารถผลักดันก่อสร้างสกายวอล์กได้สำเร็จ ต่อไปสกายวอล์กและกระเช้าลอยฟ้าลำตะคอง ก็จะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดนครราชสีมาและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทยต่อไป”