โคราชพร้อมแล้ว! เนรมิตแลนด์มาร์คท่องเที่ยวแห่งใหม่ “เทศกาลหุ่นฟางโคราช” โชว์การสร้างสรรค์ประติมากรรมหุ่นฟางครั้งใหญ่ 20 ผลงานชิ้นเอกจากกลุ่มศิลปินส่งเข้าประกวด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “โลกหลังโควิด กับชีวิตที่สมดุล” จัดแสดงยาว 4 เดือนถึงสิ้นปี ณ ศูนย์ฯหนองระเวียง มทร.อีสาน คาดเงินสะพัดกว่า 300 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 65 ที่ศูนย์การศึกษาหนองระเวียง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ตำบลหนองระเวียง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา นายไชยนันท์ แสงทอง วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ได้นำสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมการสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมหุ่นฟางที่เข้าร่วมการประกวดใน “เทศกาลหุ่นฟางโคราช ครั้งที่ 2” ซึ่งจะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2565 นี้เป็นต้นไป โดยปีนี้ได้มีการแบ่งการประกวดออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทประชาชนทั่วไป และนักศึกษา รวมทั้งสิ้น 20 ทีม มีชิ้นงานประติมากรรมหุ่นฟางรวม 20 ชิ้นงานภายใต้หัวข้อ “โลกหลังโควิด กับชีวิตที่สมดุล”

นายไชยนันท์ แสงทอง วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า “การจัดงานเทศกาลหุ่นฟางโคราช ครั้งที่ 2 นี้เป็นการแสดงผลงานจากการประกวดประติมากรรมร่วมสมัยหุ่นฟาง ในหัวข้อ “โลกหลังโควิด กับชีวิตที่สมดุล” เพื่อส่งเสริมงานด้านศิลปะสอดรับกับการชูโคราชเป็นเมืองแห่งศิลปะ และกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย”

“โดยแบ่งการประกวดออกเป็นประเภทอุดมศึกษา จำนวน 10 ทีม และประเภทประชาชนทั่วไปโดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมส่งทีมประกวดจำนวน 10 ทีม โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ อ.ศราวุธ ดวงจำปา ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ รวมทั้งศิลปินที่มีชื่อเสียง คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ ร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินการประกวดในครั้งนี้”

นายไชยนันท์ กล่าวต่อว่า “การสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมหุ่นฟางมีแรงบันดาลใจมาจากเมืองไทยเป็นเมืองเกษตรกรรม ปลูกข้าวเป็นหลัก จึงให้แต่ละทีมได้ใช้ประโยชน์จากฟางข้าวมาสร้างสรรค์ผลงานของตัวเอง แม้บางคนไม่ได้มีความรู้ทางด้านงานศิลปะแต่ทุกคนมีพรสวรรค์อยู่ในตัวเองจึงสามารถสร้างสรรค์ผลงานศิลปะออกมาได้อย่างลงตัว”

“โดยเฉพาะประชาชนในท้องถิ่นได้มีการร่วมมือร่วมใจกันเพื่อสร้างงานประติมากรรมหุ่นฟางนี้ขึ้นมา ทำให้งานหุ่นฟางออกมาหลากหลายรูปแบบที่น่าสนใจ เห็นความทุ่มเททั้งกำลังกายกำลังใจของคนในชุมชนที่จะร่วมมือกันทำให้งานออกมาดีและตรงกับคอนเซ็ปต์ที่ให้ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น ช้างไชโย โลมากับเรืออีโปง มือมหัศจรรย์ หรือการนำพระพุทธศาสนาเข้ามาสอดแทรกในการสร้างสรรค์งานผสมผสานกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เป็นต้น ส่วนผลงานของนักศึกษาก็ไม่แพ้กันมีความสวยงามและแฝงด้วยแง่คิดในการสร้างสรรค์งานหุ่นฟาง”

“และจะมีการจัดแสดงหุ่นฟางต่อเนื่องไปนานประมาณ 4 เดือน ประชาชนสามารถเข้ามาชมได้ คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมชมงานตลอดระยะเวลาจัดแสดงไม่น้อยกว่าครั้งแรกคือ 600,000 คน หรือวันละประมาณ 20,000 คน ใช้งบประมาณในการจัดงานครั้งนี้ประมาณกว่า 2.4 ล้านบาท คาดมีเงินสะพัดในงานประมาณ 200-300 ล้านบาท” นายไชยนันท์ กล่าว

ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 1-10 กันยายน 65 ขอเชิญนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาร่วมชม ชิม ชอป ผลิตภัณฑ์ของดีถิ่นโคราช สินค้าทางการเกษตร สินค้าหัตถกรรมพื้นบ้าน อาหารท้องถิ่นโคราช

พร้อมชมความสวยงามของประติมากรรมร่วมสมัยที่ประดิษฐ์จากวัสดุฟาง รังสรรค์เป็นประติมากรรมขนาดใหญ่ พร้อมถ่ายภาพเช็กอินกับประติมากรรมหุ่นฟาง แล้วแชร์ต่อเชิญชวนให้มาเที่ยวชมงานเทศกาลหุ่นฟางโคราช ครั้งที่ 2 ณ ศูนย์การศึกษาหนองระเวียง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา