วันที่รอคอย “หมอเพลงโคราช” กำปั่น นิธิวรไพบูลย์ หรือ “กำปั่น บ้านแท่น” ศิลปินเพลงพื้นบ้านเมืองย่าโม ได้รับรางวัลเชิดชูระดับประเทศ เป็น “ศิลปินแห่งชาติ 2564 สาขาศิลปะการแสดง” พ่อเมืองโคราช “วิเชียร จันทรโณทัย” ร่วมแสดงความยินดีถึงบ้าน “กำปั่น บ้านแท่น” ลั่นจะเดินหน้าสืบทอดและถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับ “เพลงโคราช” ให้กับประชาชนคนรุ่นหลังต่อไปเพื่อไม่ให้เพลงโคราช เอกลักษณ์ของชาวจังหวัดนครราชสีมา สูญหายไป

หลังจากที่กระทรวงวัฒนธรรม ได้ประกาศผลการการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2564 ซึ่งมีบุคคลที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ จำนวน 12 คน ซึ่งมีชื่อ “กำปั่น บ้านแท่น” ศิลปินเพลงพื้นบ้านเมืองย่าโม ได้รับรางวัล “ศิลปินแห่งชาติ 2564 สาขาศิลปะการแสดง” นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายไชยนันท์ แสงทอง วัฒนธรรมจังหวัด นายสัญญา ภักดิ์โพธิ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด และส่วนราชการ เดินทางนำกระเช้าดอกไม้ไปมอบให้กับนายกำปั่น นิธิวรไพบูลย์ หรือกำปั่น บ้านแท่น อายุ 71 ปี ศิลปินพื้นบ้านเพลงโคราช ชาวจังหวัดนครราชสีมา เพื่อแสดงความยินดี โดยมีนางทวาย เกริ่นกระโทก อายุ 64 ปี ภรรยาและครอบครัวให้การต้อนรับ

นายกำปั่น นิธิวรไพบูลย์ หรือกำปั่น บ้านแท่น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง เพลงโคราช กล่าวว่า “การได้รับคัดเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งแก่ตนเองและครอบครัว จนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้หมด ซึ่งความรู้สึกดีใจที่ได้รางวัลครั้งนี้ ขอมอบให้แก่พี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมาทุกคน และสิ่งสำคัญคำว่าเพลงโคราชที่จะได้รับการคัดเลือก ยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ถือว่ายากที่จะได้รับการพิจารณา แต่ในครั้งนี้คณะกรรมการได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว”

“เพลงโคราช ถือว่าเป็นกลอนเพลงที่มีความสวยงาม ละเมียดละไม แฝงไปด้วยคำแหลมคม ที่ศิลปินเพลงโคราชทุกคน รวมทั้งตัวผมเองได้ช่วยกันถ่ายทอดออกไปให้คนไทยทั้งประเทศได้ยินและได้ฟัง จนกระทั่งได้รับการคัดเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติในครั้งนี้”

นายกำปั่น กล่าวอีกว่า “รางวัลที่ได้นี่ถือเป็นรางวัลของคนโคราชทุกคน ซึ่งตนเองและครอบครัวจะไปกราบสักการะคุณย่าโมสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดนครราชสีมา เพื่อบอกกล่าวให้ท่านได้ทราบถึงความสำเร็จของเพลงโคราช อย่างไรก็ตามตนเองและครอบครัวจะเดินหน้าสืบทอดและถ่ายทอดความรู้ เกี่ยวกับ “เพลงโคราช” ให้กับประชาชนคนรุ่นหลังต่อไปเพื่อไม่ให้เพลงโคราช เอกลักษณ์ของชาวจังหวัดนครราชสีมา สูญหายไป”

“คิดถึงครูเพลง ทุกคน ที่สั่งสอนบทกลอนเพลงโคราช บางท่านก็เสียชีวิตไปแล้ว ยังไม่ทันเห็นความสำเร็จของลูกศิษย์คนนี้ ต่อไปนี้จะตั้งใจสืบสานเจตนาของครู ครูกำดัด บ้านแท่น ครูลพ บ้านแท่น ครูยอดชาย หนองน้ำขุ่น ครูลอยชาย แพรกระโทก และครูที่ผมเคยพักลักจำทุกท่าน”

“ขอบคุณ หมอเพลงโคราชทุกคนที่เคยร่วมงานกันมา ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมอิ่ม ร่วมอด มาด้วยกัน ขอบคุณท่านนายกสมาคม เพลงโคราชทั้งคนเก่าและคนใหม่ ที่ได้ช่วยผมทำอะไรต่อมิอะไร โดยการเผยแพร่เพลงโคราช เพาะเมล็ดพันธ์ใหม่ๆให้เกิดขึ้นมา อย่างมากมาย ขอบคุณหน่วยงานของทางราชการ เช่นสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด รวมทั้งสถาบันการศึกษา ทั้งประถมศึกษา มัธยมศึกษา  และอุดมศึกษา มหาวิทยาลัย หลายมหาวิทยาลัย ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด ที่ต่อเชื่อมแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ผมเคยพูดเสมอว่า “หมอเพลงโคราช คือเรคคอร์ด” เครื่องบันทึกข้อมูลที่มีชีวิต โดยบันทึกผ่านบทกลอนเพลงโคราช ที่น่าศึกษา”

“สำหรับตัวฉันผ่านชีวิตแห่งความลำบากมาทุกรูปแบบ โดยมีความยากจนเป็นพวงมาลัยบังคับ ให้เดินไปตามถนนแห่งความทุกข์  ยังมานึกแปลกใจว่า ฉันเดินทางมาถึงวันนี้ได้อย่างไร เพราะปีนี้เป็นปีที่เจ็บหนักที่สุด จากอาการป่วยปางตาย และปีนี้เป็นปีที่ประสบผลสำเร็จสูงที่สุด ในอาชีพหมอเพลงโคราช การได้รับการพิจารณายกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ มิใช่ได้มาเพราะโชคช่วย หรือให้ใครช่วย  นอกจากผลงานของตัวเองที่ผลิตขึ้นเท่านั้น” 

“อีกอย่าก็ต้องใช้เวลา และก้าวเดินไปตามขั้นตอนใจร้อนมิได้ จงทำงานไปตามหน้าที่ ที่สังคมมอบหมายให้เราทำ ไม่ต้องไปคำนึงว่าใครจะเห็นหรือไม่เห็น อย่าไปหวังหรือเรียกร้องให้ใครมามอบรางวัลให้เรา หากถึงเวลาสิ่งเหล่านี้ก็จะมาเอง” นายกำปั่น กล่าวทิ้งท้าย