“หอการค้าโคราช – ภาคเอกชน” รวมพลังเรียกนักการเมืองโคราชผู้ทรงเกียรติทั้ง 2 รัฐมนตรี, 2 สมาชิกวุฒิสภา, 14 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กลับบ้านด่วน! มาช่วยประชาชนช่วงโควิด ร้องขอวัคซีน-ชุดตรวจหาเชื้อ-การเข้าถึงเงินกู้-ขยายเวลาลงทะเบียน ม.40 ถามแรง! คนโคราชกำลังจะตายเพราะ “ติดโควิด” กับคนโคราชกำลังตายเพราะ “อดตาย” อันไหนสาหัสกว่ากัน

วันที่ 8 สิงหาคม 64 เวลา 11.11 น. องค์กรภาคเอกชน 5 สถาบันจังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วยหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา, สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดนครราชสีมา, เครือข่าย Biz Club นครราชสีมา และชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันออกแถลงการณ์ผ่านสื่อโซเชียลในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเรียกร้องให้นักการเมืองโคราชเร่งแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนชาวโคราช

นายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “หลังจากเกิดการแพร่ระบาดร้ายแรงของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขึ้นในประเทศไทย และจังหวัดนครราชสีมาได้ประกาศให้เป็นจังหวัดพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อ เป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ที่มีมาตรการควบคุมเข้มงวดสูงสุด ทำให้เกิดเป็นวิกฤติที่เกิดขึ้นในจังหวัดคือ วิกฤติด้านสาธารณสุข และวิกฤติด้านเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการหลายรายและในหลายธุรกิจประสบกับความยากลำบากในการประกอบกิจการ รวมทั้งแรงงานก็ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้าง หรือลดชั่วโมงในการทำงานลง ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของประชาชน และระบบเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดเป็นอย่างมาก” 

“ในเบื้องต้นหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับประกันสังคมจังหวัดนครราชสีมาได้จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษา การเยียวยาผู้ประกอบการและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งของภาครัฐ โดยติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลข 086-4617729 และหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาได้รับการจัดตั้งให้เป็นศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคเอกชนแห่งแรกของประเทศอย่างเป็นทางการ”

“เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ และประชาชนในเขตจังหวัดนครราชสีมา วันนี้หอการค้าฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชน อีก 4 แห่ง ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา, สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดนครราชสีมา, เครือข่าย Biz Club นครราชสีมา และชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดนครราชสีมา นำข้อเสนอต่างๆ ที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงวิกฤติครั้งนี้ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ว่าฯ พร้อมเร่งดำเนินการโดยด่วน และพร้อมทำงานร่วมกับภาคเอกชน”

นายศักดิ์ชาย กล่าวอีกว่า “ในวันนี้ เราอยากจะเรียกร้องไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของประชาชน ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ขนาดกลาง ในโคราช อันได้แก่ 2 รัฐมนตรี, 2 สมาชิกวุฒิสภา, 14 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นตัวแทนของพวกเราชาวโคราช ได้ออกมารวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ออกมาช่วยคิดช่วยทำ ร่วมกับจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน  ในการที่จะบรรเทาวิกฤติครั้งนี้ ให้ผ่านพ้นไปให้เร็วที่สุด”

“โดยขอเรียกร้องให้รัฐมนตรี, ส.ว., ส.ส. ดำเนินการตามข้อเรียกร้องดังนี้ 1.ขอให้เร่งจัดหาวัคซีนทั้งวัคซีนของทางภาครัฐ และวัคซีนทางเลือก นำมาฉีดให้กับประชาชนในจังหวัดให้ได้มากกว่า 70% และเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งจะทำให้การใช้ชีวิตและเศรษฐกิจสังคมของโคราช กลับมาเหมือนเดิมโดยเร็วที่สุด 2.ขอให้ใช้ศักยภาพในทุกทางจัดหาชุดตรวจโควิด Antigen Test Kits (ATK) เพื่อทำการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง และประชาชนทั่วไป รวมทั้งผู้ประกอบการ และภาคอุตสาหกรรม ให้ทั่วถึงและเร็วที่สุด” นายศักดิ์ชาย กล่าว

“3.การเข้าถึงแหล่งเงินทุนแก่ผู้ประกอบการ Micro SME และ SME ให้สะดวก และรวดเร็ว โดยเน้นไปที่สถาบันการเงินของรัฐ เพื่อช่วยเหลือเงินหมุนเวียนในช่วงโควิด และ 4.ขอขยายระยะเวลาการลงทะเบียนผู้ประกันตนมาตรา 40 ของประกันสังคม ออกไปอีกไม่น้อยกว่า 1 เดือน และเพิ่มวงเงินเยียวยา เพื่อให้กลุ่มอาชีพอิสระที่มีอายุตั้งแต่ 15-65 ปี ได้เข้าถึงเงินเยียวยาจากประกันสังคม”

ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “เห็นด้วยอย่างยิ่งกับประธานหอการค้า ในประเด็นที่พวกเราออกมาเรียกร้องทั้ง 4 ประเด็นหลักในวันนี้ ในภาคส่วนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของโคราช ซึ่งมีทั้งโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว ร้านขายของฝากของที่ระลึก บริษัทออแกไนท์  ผู้รับจัดงาน บริษัทนำเที่ยว รวมไปถึงห่วงโซ่การท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ขนส่ง ไกด์ มัคคุเทศก์ ศิลปิน คนเบื้องหลัง ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ไม่มีทำงานแล้ว ล้วนแต่ตกอยู่ในสถานการณ์ชะงักงัน ผลกระทบ จากสถานการณ์ครั้งนี้”

น.ส.สุรีวัลย์ จันทร์ประทักษ์ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งในข้อเรียกร้องทั้ง 4 ข้อ ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการ SME ที่กำลังแย่โดยเฉพาะ SME รายย่อยหรือ Micro SME ที่กำลังจะตายซึ่งไม่รู้ว่าจะตายเพราะติดโควิด จะตายเพราะอดตายหรือจะตายเพราะต้องฆ่าตัวตายจากปัญหาทุกอย่างที่มันรุมเร้าแล้วไม่มีทางออก ซึ่ง 3 ความตายนี้อันไหนจะมาถึงก่อนกัน เป็นความเดือดร้อนที่แสนสาหัสที่หวังให้รัฐมนตรี  ส.ว.  และ ส.ส. โคราชทุกคนช่วยเหลือในข้อเรียกร้องทั้ง 4 ข้อโดยด่วนที่สุดเพื่อให้ทุกคนรอดจากความตายโดยสิ่งเร่งด่วน”

นางสาวนางสมลักษณ์  ศรีสุวรรณ ประธานคณะกรรมการเครือข่ายธุรกิจบิสคลับ จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “กลุ่มผู้ประกอบการมีความเห็นที่เหมือนกัน คือ เมื่อไหร่ที่สถานการณ์โควิด-19 นี้จะจบ เนื่องจากระยะเวลาผ่านมานานสร้างความเสียหายให้ธุรกิจเป็นจำนวนมหาศาล จนทุกวันนี้เราไม่เหลือความหวังอะไร นอกจากทำอย่างไรให้มีชีวิตรอดปลอดภัย ซึ่งถ้าหากเราปิดกิจการลง และเปิดใหม่เมื่อสถานการณ์โควิดดีขึ้น ก็คงไม่ยากเท่ากับการพยุงธุรกิจให้อยู่รอดไปในช่วงระยะเวลานี้”

“และในสถานการณ์ที่วิกฤตเช่นนี้ พวกเราต้องการกำลังใจจากตัวแทนที่เราเรียกว่า “ผู้แทนราษฎร” อยากให้พวกท่านบอกพวกเราว่าวันนี้พวกเราควรทำเช่นไรในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งพวกเราต้องการแยกปลาออกจากน้ำ ต้องการแยกผู้ป่วยออกจากผู้ที่ไม่ป่วย พวกเราต้องการชุดตรวจโควิด Antigen Test Kits (ATK) และพวกเราเชื่อว่าผู้แทนราษฎรทุกท่านจะช่วยดำเนินการส่งให้ประชาชนทุกบ้านเหมือนตอนส่งเอกสารมาเชิญชวนให้ประชาชนมาเลือกตั้งท่านด้วย”

นายจีระศักดิ์ คาระวิวัฒนา ประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “รมต. ส.ส. ส.ว. โคราชการที่องค์กรต่างๆ ออกมาพูดวันนี้ เพราะเราได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ขอให้นักการเมืองโคราชทั้ง 18 คนออกมาช่วยกันบ้าง ลองสู้ ลองคิด ช่วยชาวโคราช ปัญหามีเยอะมาก”

“จะเห็นได้จากหลังประกาศมาตรการล็อกดาวน์ห้ามนั่งทานอาหารในร้าน ทำให้รายได้ส่วนหนึ่งของร้านอาหารหายไป เราต้องสู้ ต้องต่อลมหายใจ ทั้งลูกน้อง พนักงาน ทุกอย่างในวงการร้านอาหารหายไป เมื่อหายไปไม่มีรายได้ หากมีเงินทุนหมุนเวียนให้ผู้ประกอบการก็จะเป็นการต่อลมหายใจได้ ที่ผ่านมาสถาบันการเงินมีปัญหา ไม่ได้เงินมาให้กู้จริงๆ ขอให้ออกมาช่วยผู้ประกอบการต่อลมหายใจ ก่อนที่จะไม่มีลมหายใจตายกันหมด”