โคราชวิกฤติ! ไร้การเหลียวแล ภาคเอกชน 3 สถาบันนครราชสีมา (กกร.นม.) วอนรัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการในจังหวัด ให้ได้รับการเยียวยาเหมือนกับจังหวัดในพื้นที่สีแดงเข้มควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เผยครึ่งปี 64 โคราชผู้ประกอบการโดนพิษโรคระบาดกระทบเต็มๆทะลุ 4 หมื่นล้านบาท

เมื่อวันที่ 27 ก.ค.64 ที่ห้องประชุมอินทนากรวิวัฒน์ ชั้น 4 หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ได้จัดแถลงการณ์ขอให้รัฐบาลพิจารณาการช่วยเหลือ และเยียวยาผู้ประกอบการในจังหวัดนครราชสีมา ให้ได้รับการเยียวยาให้เหมือนกับจังหวัดในพื้นที่สีแดงเข้มควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

โดยการแถลงการณ์คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันนครราชสีมา (กกร.นม.) ในครั้งนี้ได้มี นายศักดิ์ชาย ผลพพานิชย์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา นายไพสิทธิ์ ปิติทรงสวัสดิ์ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา และนายทรงกรต เพ็ชรนารถ ประธานชมรมธนาคารจังหวัดนครราชสีมา  เป็นผู้ขึ้นกล่าวแถลงการณ์ ดังนี้

 จากการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันนครราชสีมา (กกร.นม.) เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบ ขอให้รัฐบาลพิจารณาการช่วยเหลือ และเยียวยาผู้ประกอบการ และลูกจ้างในจังหวัดนครราชสีมา ให้ได้รับการเยียวยาให้เหมือนกับจังหวัดในพื้นที่สีแดงเข้มควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

เนื่องจากขณะนี้จังหวัดนครราชสีมาได้ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่สีแดง 1 ใน 53 จังหวัด ซึ่งมีมาตรการควบคุมแตกต่างจากพื้นที่สีแดงเข้มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของประชาชนเช่นเดียวกับพื้นที่สีแดงเข้ม และยังเป็นจังหวัดที่มีอัตราผู้ติดเชื้อสูงสุด เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ

“กกร.นครราชสีมา” เห็นว่าประกาศการเยียวยาจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการและลูกจ้างได้ในเบื้องต้น ทำให้ช่วยพยุงเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของประชาชนให้สามารถดำเนินต่อไปได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน จึงขอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาช่วยเหลือ และเยียวยาผู้ประกอบการในจังหวัดนครราชสีมาให้ได้รับการเยียวยาให้เหมือนกับจังหวัดในพื้นที่สีแดงเข้ม

 ทั้งนี้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันนครราชสีมา (กกร.นม.) ได้ยื่นหนังสือถึง นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และนายชัชวาล วงศ์จร ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 แล้ว และจะยื่นหนังสือเพื่อนำเสนอต่อ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทย และนายผยง ศรีวณิช ประธานกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เพื่อดำเนินการขอให้รัฐบาลพิจารณาการช่วยเหลือ และเยียวยาผู้ประกอบการในจังหวัดนครราชสีมาให้ ได้รับการเยียวยาให้เหมือนกับจังหวัดในพื้นที่สีแดงเข้มควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ต่อไป

นายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาเปิดเผยว่า “ธุรกิจในจังหวัดนครราชสีมาได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดเป็นอย่างหนัก ตั้งแต่ปี 2563 ที่เริ่มมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น และผลกระทบยังต่อเนื่องมาถึงปี 2564 ซึ่งมีการระบาดหนักเป็นระลอกที่ 3 ทำให้ธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 จังหวัดนครราชสีมายังได้รับกระทบเช่นกัน”

“ฉะนั้นในภาพรวมเฉพาะครึ่งปีแรกที่ผ่านมาธุรกิจได้รับผลกระทบประมาณ 30,000-40,000 ล้านบาทขึ้นไป  ทั้งนี้จากการรวบรวมสถิติพบว่ามีการปิดกิจการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ต ที่พัก บริษัททัวร์ ร้านของฝาก ร้านนวดเพื่อสุขภาพ โรงงานอุตสาหกรรม และร้านค้าปลีกทั่วไปทั้งระบบในจังหวัดนครราชสีมามีปิดกิจการไปแล้วมากกว่า 3,000 – 4,000 ราย ตั้งแต่ปี 2563-ปัจจุบัน ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก”

“ทำให้ผู้ประกอบการในจังหวัดต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด และพยุงธุรกิจต่อไปให้ได้ ผู้ประกอบการมีการปรับตัวกันหลายรูปแบบหอการค้าได้พยายามเข้าไปมีส่วนรวมกับภาครัฐในการกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถพยุงธุรกิจให้เดินต่อไปได้”

“ขณะนี้จังหวัดนครราชสีมาได้ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่สีแดง ซึ่งมีมาตรการควบคุมแตกต่างจากพื้นที่สีแดงเข้มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของประชาชนเช่นเดียวกับพื้นที่สีแดงเข้ม และยังเป็นจังหวัดที่มีอัตราผู้ติดเชื้อเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประเมินว่าเศรษฐกิจของประเทศน่าจะดีขึ้นในปลายปี 2565 ขึ้นอยู่กับการควบคุมสถานการณ์โควิด  การได้รับการฉีดวัคซีนให้ได้เร็วที่สุด และทั่วถึง” นายศักดิ์ชาย กล่าว