ดีเดย์ “นายกฯประเสริฐ บุญชัยสุข” นำทีมบริหารเทศบาลนครนครราชสีมา แถลงนโยบายละเอียดยิบ ประกาศลั่นสตาร์ทอัพนโยบายเร่งด่วน 7 ด้าน และนโยบายหลัก 5 ด้าน ทั้งไวรัสล้างโลกโควิด ต้องสกัดเร่งด่วนพร้อมฟื้นเศรษฐกิจไปด้วย เตรียมเคลียร์ถนนทั้งเมือง แก้วิกฤติจราจร พลิกโฉมคูเมือง พิชิตฝุ่นพิษจิ๋ว PM 2.5 ที่ต้นเหตุ สกัดน้ำท่วมปัญหาโลกแตก! ยันน้ำประปาต้องแก้ทั้งระบบ สร้างปอดคนเมือง เปิดตลาดริมถนนสตรีทฟู้ด และตลาดไนท์มาร์เก็ต ฯลฯ นายกฯป้ายแดงลั่นทุกนโยบายทำจริง!
วันที่ 4 มิ.ย.64 นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา พร้อมรองนายกฯนายไกรสีห์ หล่อธราประเสริฐ, นายสหพล กาญจนเวนิช, นายชาตรี วงษ์วิบูลย์สิน และนายนัฏฐชัยฐ์ ธนกนกนนทณ์ และสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมา ทั้ง 24 คน ได้เข้ามาบริหารเทศบาลนครนครราชสีมา เป็นวันแรก โดยมาสักการะศาลพระพรหม เพื่อความเป็นสิริมงคลหน้าเทศบาลฯ และเวลา 10.00 น.ที่ชั้น 5 ห้องประชุมกาญจนาภิเษกฯ สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา เปิดประชุมสภาฯ โดยนายอุทัย มิ่งขวัญ ประธานสภาฯ พร้อมแถลงนโยบายโดยนายกเทศมนตรี
นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา กล่าวว่า “นโยบายที่ทางผู้บริหารได้กำหนดไว้เพื่อแก้ไข และพัฒนาสร้างความเจริญให้เกิดขึ้นแก่ประชาชน และเพื่อประโยชน์สูงสุดของคนเมืองทุกคน โดยกำหนดนโยบายในการบริหารงานเป็น 2 ประเภทได้แก่ นโยบายเร่งด่วน 7 ด้าน และนโยบายหลัก 5 ด้าน”
“นโยบายเร่งด่วนแรก การควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น เทศบาลจะร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อควบคุมและป้องกันโรคอย่างจริงจังและต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย พร้อมปรับปรุงซ่อมแซมผิวจราจร ถนน ทางเท้า และติดตั้งระบบไฟฟ้า-สัญญาณจราจร เพิ่มขึ้นและแก้ไขที่ชำรุด จะบริหารจัดการปัญหาขยะอย่างมีประสิทธิภาพ จากปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นของตัวเมืองเทศบาล จากวันละ 230 ตันเป็น 500 ตัน และใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”
“และปัญหามลพิษทางอากาศ จากฝุ่นละอองจิ๋ว PM 2.5 โดยจะเร่งใช้มาตรการต่างๆเพื่อควบคุมและป้องกันการปล่อยมลพิษทางอากาศจากแหล่งกำเนิดมลพิษ นอกจากนี้ยังมีปัญหาน้ำท่วม ที่จะแก้ปัญหานี้ให้หมดไปอย่างถาวร เช่นย่านตลาดเซฟวัน ชุมชนมหาชัย ชุมชนคลองโพธิ์ และพื้นที่อื่นๆ ต้องสร้างระบบท่อระบายน้ำและรางระบายน้ำขนาดใหญ่ และบริหารจัดการระบายน้ำท่วมขังอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว เตรียมมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโรคระบาดโควิด ช่วยเหลือผู้ยากไร้ คนว่างงาน ผู้ประกอบการ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน”
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า “ในส่วนของนโยบายหลัก โครงการเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน จะเร่งผลักดันปรับปรุงพัฒนาภูมิทัศน์ 2 ฝั่งลำตะคองช่วงผ่านตัวเมืองให้สวยงาม ฟื้นวิถีชีวิตชุมชนชาวบ้านริมน้ำ เปลี่ยนหลังบ้านเป็นหน้าบ้าน สร้างวิสาหกิจชุมชนใหม่พร้อมแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเมือง เพิ่มพื้นที่ออกกำลังกายสร้างปอดให้คนเมือง”
“นอกจากนี้ปัญหาคูเมืองที่ถูกพูดถึงมานาน เราจะปรับปรุงคูเมืองทั้งหมดและพื้นที่โดยรอบ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ เป็นที่ออกกำลังกายจัดกิจกรรม พร้อมเป็นสถานที่รองรับนักท่องเที่ยว และต่อเนื่องไปถึงการสร้างปอดให้คนเมืองเพิ่มขึ้น โดยปรับปรุงสวนสาธารณะเก่าที่มีอยู่แล้วมารีโนเวทใหม่ ปลูกต้นไม้ให้ร่มรื่นเพิ่มขึ้น พร้อมสร้างเพิ่มให้เพียงพอกับคนเมือง 2 แสนกว่าคน”
“ด้านสาธารณสุข สร้างศูนย์บริการสาธารณสุข 6 พื้นที่เขต 4 เพิ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาต่างๆที่ยังขาดมาให้บริการ เตรียมยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดเทศบาลฯให้สูงขึ้น ไม่ด้อยกว่าคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ”
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า “ส่วนปัญหาจราจรติดขัด เทศบาลฯจะเร่งผลักดันโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแยกประโดก และสร้างถนนสายต่างๆเพิ่มขึ้น ให้การจราจรระบายและคล่องตัว ลดปัญหารถติดขัดในตัวเมือง เร่งรัดก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ โดยเฉพาะรถไฟฟ้ารางเบา LRT ทุกสายที่ได้มีการศึกษาไว้แล้ว สร้างเมืองให้เป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่ง รองรับมอเตอร์เวย์ รถไฟทางคู่ และไฮสปีดเทรนอีกด้วย”
“ด้านปัญหาน้ำประปา ต้องเพิ่มศักยภาพการจัดหาน้ำดิบและการบริหารจัดการน้ำประปาอย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร ปรับปรุงขยายกำลังการผลิตของโรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำขาดแคลนในอนาคต ส่วนเรื่องการบริการประชาชนต่างๆ จะปฏิรูปการบริหารงานเทศบาลผ่านระบบดิจิตอล ให้ประชาชนได้รับการบริการต่างๆได้รวดเร็วยิ่งขึ้น”
“นอกจากนี้ต้องทำให้เป็นเมืองท่องเที่ยว ในรูปแบบแปรกิจกรรมประเพณีของโคราช และอีสานให้เป็นตลาดเฉพาะสำหรับดึงดูดการท่องเที่ยว เช่นประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา สงกรานต์ ลอยกระทง งานผ้าไหมโคราช งานมวยโคราช ขนมจีนโคราช งานกินเจเป็นต้น และสนับสนุนกีฬาทุกมิติ ผลักดันสนับสนุนโคราชเป็นเมือง“ไมซ์ซิตี้” และเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ร่วมขับเคลื่อน “โคราชจีโอพาร์ค” สู่จีโอพาร์คโลกยูเนสโก”
“ฟื้นเศรษฐกิจชุมชนในเมือง เปิดตลาดอาหารริมถนนสตรีทฟู้ด และตลาดไนท์มาร์เก็ต เพิ่มขึ้น ร่วมส่งเสริมกีฬาทุกมิติ ฟื้นฟูศิลปะมวยไทยโคราชที่ลือลั่นในอดีตให้กลับมา เป็นเจ้าภาพแข่งขันกีฬาระดับประเทศและสากล พร้อมพัฒนากิจกรรม “ถนนกีฬา” สร้างเมืองกีฬาเชิงสุขภาพ กีฬาขั้นพื้นฐาน กีฬามวลชน กีฬาอาวุโส และกีฬาประเภทอื่นๆโดยใช้พื้นที่ถนนหรือที่อื่นๆจัดกิจกรรม”
“ตนขอยืนยันว่านโยบายทั้งหมดนี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานและสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจริง และจะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นนโยบายที่สามารถนำไปปฏิบัติและเกิดผลสำเร็จได้ ตามภารกิจของเทศบาลนครฯ ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาท้องถิ่นของเราให้เจริญเติบโตก้าวหน้า ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” นายประเสริฐ กล่าวทิ้งท้าย