เมกะโปรเจ็กต์ “ท่าเรือบกโคราช หรือ Korat ICD” ไม่หมูหลังขอนแก่นมาเหนือเมฆท้าชิงโคราช จัดเต็มเอกชนลงทุนเอง “ผู้ว่าฯวิเชียร” ลั่น “โคราชต้องมีท่าเรือบกให้ได้ ขอให้คนโคราชอย่าไปขัดกันเอง” ส่งรองผู้ว่าฯและ “หัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ” ปธ.สภาอุตสาหกรรมฯลุยเสนอข้อมูลโคราชเหมาะที่สุดด้านโลจิสติก เพื่อขนส่งทางรางไปท่าเรือแหลมฉบัง เพราะไม่ต้องย้อนกลับไปขอนแก่น
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “สินค้าที่จะส่งออกไปต่างประเทศโดยใช้ท่าเรือมาบตะพุด โดยจังหวัดนครราชสีมา เราสูงที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งครม.ให้มีการศึกษานครราชสีมาเป็นจุดรวมของภาคอีสาน คือสินค้าต่างๆสามารถวิ่งมาได้เพราะว่าสินค้าที่จะไปมาบตะพุดต้องผ่านนครราชสีมาก่อน แต่ถ้าไปอยู่จังหวัดอื่น หมายถึงสินค้าของจังหวัดนครราชสีมาต้องย้อนขึ้นไป และส่งไปรถไฟรางคู่ เพื่อย้อนไปมาบตะพุดอีก ซึ่งคิดว่าไม่เหมาะเราน่าจะเหมาะสมที่สุด ที่จะเป็น “ท่าเรือบกโคราช หรือ Korat ICD (Inland Container Depot)”
“ตอนนี้เราพยายามให้ข้อมูล ตรงไปตรงมา เพราะมองว่านครราชสีมาน่าจะเหมาะสม เพราะเราเป็นจุดศูนย์กลาง สินค้าจากชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ หรืออุบลราชธานี มาที่นครราชสีมามีเส้นทางผ่านมาโดยตลอด และสินค้าที่ส่งออกก็มากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นตัวชี้ขาดว่า คนที่ต้องการจะใช้ท่าเรือบกอยู่ที่นครราชสีมามากที่สุด และเล็งเห็นว่าเราน่าจะมีความพร้อมมากที่สุด แต่ผลการศึกษาก็ยังไม่แน่ใจ ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด”
ผู้ว่าฯวิเชียร กล่าวต่อว่า “ตนได้เรียน ดร.สมพงษ์ ปักษาสวรรค์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวางแผนการขนส่งและจราจร ซึ่งเป็นผู้จัดการโครงการศึกษาวิจัยฯว่า ถ้าข้อมูลของจังหวัดนครราชสีมา ไม่ครบหรือไม่สมบูรณ์ เรายินดีที่จะเป็นตัวกลางในการหาข้อมูลส่งให้ ซึ่งตอนนี้เสนอไป 2 จุดคือ ใกล้ๆกุดจิก ต.โคกกรวด และอีกจุดคือสีคิ้ว บริเวณสี่แยก 201 ทับม้า เป็นถนนที่อยู่ติดถนน 201ไปชัยภูมิใกล้ถนนสาย 24 และใกล้ทางรถไฟหนองน้ำขุ่น ซึ่งมองว่าเป็นโลเกชั่นที่เหมาะสม และพื้นที่ตรงนั้นสามารถขยายได้เป็น 1,000 ไร่”
“สำหรับด้านคู่แข่งบางจังหวัดมีออฟชั่นแปลกๆ เช่น ภาคเอกชนจะลงทุนเองซึ่ง ทำให้คะแนนของจังหวัดนครราชสีมา อาจจะด้อยลง แต่อยากให้ดูในรายละเอียดว่า การลงทุนท่าเรือบก (ICD) เป็นเรื่องใหญ่ใช้งบประมาณมาก ซึ่งถ้าเสนอไปแล้วไม่ดำเนินการจริง ก็เป็นการกั๊กจังหวัดอื่นซึ่งทำให้เสียโอกาส ในการพัฒนาจังหวัดอื่นๆไป”
“โดยท่าเรือบกโคราชจะมีการดำเนินการด้านพิธีการศุลกากรที่เสร็จสรรพ และครอบคลุมก่อนจะขนส่งสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์ และขนส่งทางรางไปยังท่าเรือแหลมฉบัง และไม่ต้องย้อนกลับไปขอนแก่น เพื่อส่งจำหน่ายไปในต่างประเทศ ซึ่งคิดว่าทางรัฐ และผู้ศึกษาข้อมูลคงต้องดูเรื่องนี้ด้วย สำหรับเรื่องนี้ตนได้มอบให้ รองผู้ว่าฯมุรธาธีร์ รักชาติเจริญ ร่วมกับ คุณหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ ประธานสภาอุตสาหกรรมจ.นครราชสีมาไปดู และตนก็ได้ดูเองด้วย ซึ่งขอให้คนโคราชอย่าไปขัดกันเอง” ผู้ว่าฯวิเชียร กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ ประธานสภาอุตสาหกรรมจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “เรื่องท่าเรือบก ตอนนี้คู่แข่งอย่าง จ.ขอนแก่นมาแรงมาก ทางเราจึงมีการเดินสายชี้แจงเพื่ออยากให้ได้จุดที่เหมาะสม กำลังเร่งให้จบ วันนี้ท่าเรือบกหรือ ICD คะแนนสนับสนุนครั้งแรกเราแพ้ แต่เราก็จะเร่งที่เราขาดให้ครบให้ได้”
“ซึ่งนโยบายที่ขอนแก่นเสนอไปนั้นค่อนข้างนิ่งมาหลายปีแล้ว และยืนยันจะสร้างเพียงจุดเดียว แต่ของโคราชหลายจุด เพราะฉะนั้นจึงต้องฟันธงให้ได้ก่อนว่าจะสร้างที่ไหน จะเลือกที่ตำบลกุดจิก อำเภอสูงเนิน หรือว่าที่อำเภอสีคิ้ว เพราะรถไฟความเร็วสูง ผมคิดว่ามีความก้าวหน้ารวดเร็วมากขึ้น เพราะฉะนั้นจังหวัดนครราชสีมาต้องมีความชัดเจนรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่มาแน่นอนแล้ว”
นายหัสดิน กล่าวอีกว่า “โดยทางขอนแก่นเสนอตัวจะสร้างท่าเรือบกเองเลย ซึ่งวันนี้โคราชต้องเร่งเรื่องจุดสร้างท่าเรือบกที่เหมาะสม ซึ่งขณะยังสรุปไม่ได้ มีที่เสนอไว้คือบ้านกระโดน แต่ทำลำบากอาจจะแพ้ทางขอนแก่น เพราะมีแค่ 20 ไร่ไม่เหมาะ เพราะทางขอนแก่นเสนอพื้นที่ 500-1,300 ไร่ ส่วนที่นากลาง อ.สูงเนินมี 400-500 ไร่ และสีคิ้ว 400 ไร่ ตอนนี้กำลังเร่งผลักดันให้มาอยู่ที่โคราชให้ได้”
“ส่วนตัวตนคิดว่าที่นากลาง อ.สูงเนินเหมาะที่สุด เพราะทุกคนต้องผ่านไม่มีการย้อนเลย และตรงนี้ห่างจากสถานีรถไฟเพียง 3 กิโลเมตร คือถ้าจะสร้างสถานีขนส่ง แล้วหากต้องสร้างสถานีใหม่ เฉพาะค่าสถานีค่าสับราง มากกว่า 20 ล้าน เพราะฉะนั้นตรงนี้มีสถานีอยู่แล้ว แค่เพิ่มราง โดยตนได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดฯมาดำเนินการให้สำเร็จให้ได้” นายหัสดิน กล่าวสรุป