เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ “ไม้กลายเป็นหิน” โผล่กลางไร่มันสำปะหลัง หลังชาวบ้าน แห่ขูดขอเลขเด็ดงวด 1 มิ.ย.หวังโชคลาภจากมหัศจรรย์ไม้กลายเป็นหินกันอย่างคึกคักเพราะมีคนมาไหว้แล้วถูกหวย 2 งวดติด เตรียมประสานไปยังสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน ม.ราชภัฎโคราช มาสำรวจพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
หลังจากเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2561 ชาวบ้านในตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา จำนวนมาก ได้นำธูปเทียน มากราบไหว้ ตอไม้กลายเป็นหินขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านเชื่อว่ากลายเป็นหิน อยู่บริเวณทางน้ำไหล กลางไร่มันสำปะหลัง บ้านรังกาใหญ่ หมู่ที่ 6 ตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย ซึ่งมีความยาวประมาณ 1 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 50 เซนติเมตร จมอยู่ใต้ดินบางส่วน ลักษณะคล้ายกับท่อนไม้ที่กลายเป็นหิน โดยชาวบ้านได้นำธูปเทียน มากราบไหว้ เพื่อขอโชคลาภตามความเชื่อก่อนวันหวยออก 1 มิถุนายนนี้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่สำรวจซากไม้กลายเป็นเหินกลางไร่มันสำปะหลัง เพื่อส่งข้อมูลให้สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน และเตรียมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวซากดึกดำบรรพ์
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2561 นายจาตุรงค์ ถนอมกลาง ปลัดอำเภอพิมาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยอำเภอพิมาย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่ สำรวจท่อนไม้กลายเป็นหิน หรือตอไม้ขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านเชื่อว่ากลายเป็นหิน อยู่บริเวณ ทางน้ำไหล กลางไร่มันสำปะหลัง บ้านรังกาใหญ่ หมู่ที่ 6 ตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย ซึ่งไม้มีความยาวประมาณ 1 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 50 เซนติเมตร จมอยู่ใต้ดินบางส่วน ลักษณะคล้ายกับท่อนไม้ที่กลายเป็นหิน
หลังชาวบ้านในพื้นที่ค้นพบ และพากันเข้าไปกราบไหว้เพื่อขอโชคลาภ และถูกรางวัลติดต่อกันมา 2 งวดติดแล้ว โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทราบเรื่อง จึงได้ ลงพื้นที่ตรวจสอบท่อนไม้กลายเป็นหิน ในจุดบริเวณที่พบท่อนไม้กลายเป็นหิน อยู่บริเวณทางน้ำไหล กลางไร่มันสำปะหลัง โดยท่อนไม้ที่พบ มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ จำนวน 2 ท่อน
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพ เก็บข้อมูลลายละเอียดทั้งหมด เพื่อเตรียมประสานไปยังสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน และทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ให้เข้ามาตรวจสอบและยืนยันข้อเท็จจริงอีกครั้ง ก่อนที่จะเตรียมพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทางทรัพยากรธรณี และ ซากดึกดำบรรพ แห่งใหม่ของจังหวัดนครราชสีมาต่อไป.