ช็อค! คอหนังเมืองโคราช โรงหนัง “ไฟว์สตาร์มัลติเพล็กซ์” แยกประตูผี โรงหนังราคาตั๋วถูกขวัญใจนักเรียน-นักศึกษาแห่งสุดท้ายที่ยังสู้กับโรงภาพยนตร์แบรนด์ดังในห้างใหญ่ ปิดตำนานกว่า 30 ปี ท่ามกลางชาวโซเชียลแห่ให้กำลังใจมหาศาล ผู้บริหารโรงหนังเผยเหตุพิษเศรษฐกิจวิกฤติยาวตั้งแต่โควิด สู้โรงหนังแบรนด์ดังบนห้างยาก และหนังออนไลน์สตรีมมิ่งไม่ได้ แม้ราคาตั๋วถูกกว่ามากทนแบกต้นทุนไม่ไหว!
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 67 สื่อโซเชียลของโคราชได้โพสต์ “ปิดตำนานโรงหนังไฟว์สตาร์โคราช ปิดฉากโรงหนังคนโคราชแห่งสุดท้าย ซึ่งเมืองหนัง “ไฟว์สตาร์มัลติเพล็กซ์” ห้าแยกประตูไชยณรงค์ ข้างโรงแรมปัญจดารา อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยได้ฉายหนังรอบสุดท้ายเมื่อวานนี้ (วันที่ 28 สิงหาคม) เป็นวันสุดท้าย ถือเป็นโรงภาพยนตร์ท้องถิ่นของคนโคราชเปิดให้บริการมากว่า 30 ปี ส่วน “ไฟว์สตาร์มาร์โค ซุปเปอร์มาร์เก็ต” และโรงแรมปัญจดารา ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ”
ทำให้ข่าวดังข่าวถูกแชร์ไปมากถึง 2,300 กว่าแชร์อย่างรวดเร็ว พร้อมเข้ามาคอมเม้นท์แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ต่างเสียดายที่โรงหนังไฟว์สตาร์ของท้องถิ่นแห่งสุดท้ายต้องปิดตัวลง
นายพรชัย อื้งธนไพศาล ผู้บริหารโรงภาพยนตร์ไฟว์สตาร์มัลติเพล็กซ์ เปิดเผยว่า “โรงภาพยนตร์ไฟว์สตาร์มัลติเพล็กซ์ และเป็นโรงภาพยนตร์ที่เปิดให้บริการชาวนครราชสีมามานานเกือบ 30 ปี โดยเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2539 แต่ปัจจุบันโรงภาพยนตร์ไฟว์สตาร์มัลติเพล็กซ์ ได้ปิดกิจการไปแล้วเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ประชาชนเลยเลือกที่จะตัดค่าใช้จ่ายทางด้านบันเทิงทิ้งไป ทำให้ประชาชนไม่เข้ามาชมภาพยนตร์เหมือนเมื่อก่อน อีกทั้งการเข้ามาของระบบสตรีมมิ่งซึ่งค่ายภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ต่างประเทศหลายค่ายต่างทำภาพยนตร์ฉายผ่านระบบสตรีมมิ่งซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกค้าลดลงด้วย”
“ซึ่งเมืองหนังแห่งนี้มีโรงภาพยนตร์ 6 โรงทั้งโรงใหญ่ กลางและเล็ก หลังจากนั้นได้ยุบโรงเล็กชั้น1ไป 2 โรง และยังมี “ไฟว์สตาร์มาร์โค” ซุปเปอร์มาเก็ต โรงแรมปัญจดารา ภัตตาคารเทียมเทียม อาคารพาณิชย์ ร้านอาหารและพื้นที่เช่าขายของต่างๆ เพื่อให้คนที่มาชมภาพยนตร์สามารถเลือกซื้อสินค้ารอเวลาเข้าดูหนังฉายภาพยนตร์ ตั้งแต่รอบเช้าถึงรอบสุดท้าย ของรอบฉายทุกวัน ส่วนวันพุธจะมีโปรดูหนัง 60 บาททุกที่นั่ง ซึ่งก่อนโรคระบาดโควิด ทุกวันพุธจะมีนักเรียนนักศึกษามาชมภาพยนตร์จำนวนมากเพราะราคาถูกที่สุดในโคราช”
นายพรชัย กล่าวอีกว่า “สำหรับสาเหตุส่วนหนึ่งที่โรงภาพยนตร์ไม่สามารถไปต่อได้ คือ สถานการณ์เศรษฐกิจที่ซบเซา คนไม่มีเงินหรือไม่กล้าใช้เงินซึ่งเริ่มมาตั้งช่วงโรคระบาดโควิด-19 เรื่อยมา พอเศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนก็เริ่มตัดค่าใช้จ่ายในด้านบันเทิงโดยเฉพาะการไปดูภาพยนตร์ ทำให้รายได้ของโรงหนังโดนกระทบลดลงไปด้วย สวนทางกับค่าใช้จ่ายของโรงหนังในแต่ละเดือนที่มีภ่ระนับแสนบาท”
“อีกทั้งความนิยมของประชาชนเปลี่ยนไป โดยนิยมไปดูภาพยนต์บนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มากกว่าจะมาชมภาพยนต์ในโรงภาพยนตร์โดยเฉพาะไฟว์สตาร์มัลติเพล็กซ์ซึ่งฉายแต่ภาพยนตร์เพียงอย่างเดียว และถึงแม้จะเปิดซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วรวมไปถึงลดราคาตั๋วภาพยนตร์ลงไปกว่าครึ่งก็ยังไม่สามารถเรียกลูกค้ากลับมาได้ ประกอบกับในช่วงการระบาดของโควิด-19 เทรนด์ของการรับชมภาพยนต์ก็เปลี่ยนไปด้วย”
“เนื่องจากไม่สามารถไปชมภาพยนตร์ตามโรงภาพยนตร์ได้ทำให้เกิดระบบสตรีมมิ่งคือการดูภาพยนตร์ออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่นสำหรับดูหนัง นอกจากนี้ค่ายภาพยนตร์ขนาดใหญ่ของต่างประเทศหลายค่ายก็หันมาทำระบบสตรีมมิ่งกัน ก็ยิ่งส่งผลให้ลูกค้าลดลงจนต้องปิดตัวไปในที่สุด”
ด้านนางสาวโนรี เจียบเกาะ อายุ 55 ปี พนักงานเก่าแก่ที่สุดของโรงหนังไฟว์สตาร์มัลติเพล็กซ์ กล่าวว่า “หลังจากทราบข่าว ก็รู้สึกตกใจและรู้สึกใจหายอย่างมากเนื่องจากตนทำงานที่โรงหนังไฟว์สตาร์แห่งนี้มาตั้งแต่เริ่มเปิดวันแรก รวมระยะเวลาทั้งหมด 27 ปี ซึ่งโรงหนังไฟว์สตาร์แห่งนี้เปรียบเหมือนบ้านหลังที่ 2 ของตนถ้าดูจากระยะเวลาที่ทำงานแล้วก็เกือบทั้งชีวิตที่ทำงานที่แห่งนี้”
“ซึ่งตนคิดว่าโรงหนังไฟว์สตาร์เป็นโรงหนังของคนโคราชและอยู่คู่เมืองนครราชสีมามานานหลายสิบปี เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่มีเงินจำกัด แต่อยากดูหนังในโรงภาพยนตร์ซึ่งราคาตั๋วถูกกว่าโรงหนังทั่วไปเกือบเท่าตัว แต่ถึงขนาดลดราคาแล้วก็ยังไม่สามารถพยุงต่อไปได้ ซึ่งจากนี้ไปตนยังไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรต่อเหมือนกัน”