เปิดตัวแล้ว! “กอล์ฟ”มารุต ชุมขุนทด เจ้าของแบรนด์ร้านคาเฟ่ชื่อดังแห่งเมืองโคราช “คลาสคาเฟ่” เปิดตัวชิงเก้าอี้ “นายก อบจ.โคราช” ที่จะหมดวาระปลายปีนี้ ยันไม่สังกัดพรรคการเมือง ไม่ท้อคนสบประมาทเล่นใหญ่เกินตัว เดินหน้าลุยหาเสียงล่วงหน้ามาแล้ว 1 ปี ยึดประชาชนเป็นหลักทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์
ศึกสนามเลือกตั้งชิงเก้าอี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา (อบจ.โคราช) เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งภายหลังจาก “นายก อบจ.นครราชสีมา” และ “ส.อบจ.นครราชสีมา” จะหมดวาระเดือนธันวาคม 2567 นี้ ทำให้กลุ่มการเมืองต่างๆ เริ่มมีการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะ “พรรคเพื่อไทย” และ “พรรคก้าวไกล” ที่มีฐานเสียงของพรรคในพื้นที่โคราชจากการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งล่าสุด
โดยเก้าอี้ “นายก อบจ.นครราชสีมา” คนปัจจุบันคือ ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล หรือ “เจ๊หน่อย” บ้านใหญ่พรรคเพื่อไทย ภรรยาของ “เสี่ยป้อ” นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล เจ้าของโรงแป้งมันเอี่ยมเฮง ยังคงทำงานในหน้าที่นายก อบจ.นครราชสีมา อย่างต่อเนื่อง ก่อนจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 19 ธันวาคม 2567 นี้
และจากการเปิดเผยของ ส.จ.คนใกล้ชิดนางยลดาระบุชัดเจนว่า นางยลดาจะไม่ลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ.ก่อนครบวาระเหมือนหลายจังหวัดอย่างแน่นอน และไม่ได้หวั่นไหวว่าพรรคก้าวไกล หรือพรรคการเมืองอื่นๆ จะส่งผู้สมัครนายก อบจ.มาเป็นคูแข่งแต่อย่างใด โดยนางยลดาขอเอาผลงานที่ทำและแก้ปัญหาให้กับชาวโคราชทั้ง 32 อำเภอ ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่อยู่ในตำแหน่งเป็นเครื่องพิสูจน์ เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ
ล่าสุด! เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 67 ที่บริเวณข้างลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายมารุต ชุ่มขุนทด หรือ “กอล์ฟ” ได้เปิดเวทีเพื่อลงชิงตำแหน่ง “นายก อบจ.นครราชสีมา” ในนามกลุ่มอิสระ โดยมีกองเชียร์ซึ่งเป็นกลุ่มต่างๆอาทิ กลุ่มเยาวชนคลังแสง, กลุ่มสุราก้าวหน้า, กลุ่มเกษตรกร, อดีตนักการเมืองท้องถิ่น และประชาชนจากอำเภอต่างๆ มาร่วมให้กำลังใจอย่างคับคั่ง
โดยเป็นการเปิดเวที 360 องศา มีการปราศรัยชูนโยบาย จะนำเทคโนโลยีมาเปลี่ยน อบจ.ให้มีความทันสมัย, เปิดเผยงบประมาณทุกบาทให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้, เน้นพัฒนาศักยภาพเยาวชน สู่การเป็นสตาร์ทอัพ, หมดยุคท้องถิ่นผู้รับเหมา และทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ เป็นต้น
นายมารุต ชุ่มขุนทด กล่าวว่า “การเลือกลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.นครราชสีมา ในนามกลุ่มอิสระครั้งนี้ หลายคนก็สบประมาทว่าคงจะสู้บ้านใหญ่ไม่ได้แน่นอน ซึ่งรู้ดีว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่ก็ไม่เคยสิ้นหวัง จากการลงพื้นที่พบประชาชนตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ได้เห็นปัญหามากมายที่ยังรอการแก้ไขมากมาย”
“วันนี้ตนไม่ได้มาเล่นการเมืองแบบเดิมที่อิงกับบ้านใหญ่ หรือพรรคการเมืองใหญ่ แต่เน้นนโยบายความจริงใจที่จะเข้ามาแก้ปัญหาประชาชนเป็นหลัก โคราชต้องมาก่อน บางครั้งนโยบายของพรรคการเมืองอาจจะมาไม่ถึง เสียงของประชาชนในพื้นที่อาจจะเบาไป ทำให้ปัญหาในแต่ละพื้นที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด”
“ดังนั้นการไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใดถือว่าเป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะจะทำให้ตนทำงานได้อย่างอิสระ เรื่องของท้องถิ่นควรจะเป็นวาระของบ้านเราเอง ไม่ใช่วาระของชาติ การเมืองท้องถิ่นไม่ควรจะรวมศูนย์อยู่ส่วนกลาง ควรจะเป็นการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นเป็นผู้ตัดสินใจด้วยตัวเอง ส่วนพรรคการเมืองต่างๆ หากอยากจะเข้ามาร่วมพัฒนาท้องถิ่นด้วยกัน ถ้ามีนโยบายที่สอดคล้องกันกับท้องถิ่นก็พร้อมจะร่วมมือทำงานกับทุกพรรค เราจะทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์”
“ไม่รู้สึกน้อยใจ หรือท้อแท้ ที่ไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใดๆ ตอนนี้กำลังใจเต็มเปี่ยม ตลอดเวลากว่า 1 ปี ลงพื้นที่ไปพบประชาชนแล้วกว่า 180 ตำบล และจะเดินหน้าลงพื้นที่ต่อให้ครบทั้ง 289 ตำบล ใน 32 อำเภอ เพื่อรับฟังปัญหาในแต่ละพื้นที่ และพร้อมที่จะนำปัญหาเหล่านั้นมาแก้ไขอย่างทั่วถึง หากได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.นครราชสีมา” นายมารุต กล่าวทิ้งท้าย