เฮทั้งโคราชปรบมือให้ทีม “ผู้ว่าฯสยาม ศิริมงคล” นำทีมหอการค้าฯ-สภาอุตฯท่องเที่ยวฯลฯ บุกประเทศกาตาร์ ตัวแทนประเทศไทยพรีเซนต์ชิงเป็นเจ้าภาพบิ๊กงานยักษ์ “มหกรรมพืชสวนโลก 2572” งานระดับ A1 หรือ WORLD HORTICULTURAL EXPOSITION ครั้งแรกในอีสานได้สำเร็จคว้าสิทธิ์จัดงานแล้ว! ชูวิสัยทัศน์ “ธรรมชาติและพรรณพืชเขียวขจีอนาคตแห่งโลกสีเขียว” พร้อมจัดใหญ่ “KORAT EXPO 2029” ใช้งบ 4,281 ล้านบาท จัดบริเวณที่สาธารณประโยชน์ “โคกหนองรังกา” ต.เทพาลัย อำเภอคง เนื้อที่จัดงาน 678 ไร่ ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2572 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2573 รวม 110 วัน คาดเงินสะพัดเมืองย่าโมกว่า 20,000 ล้านบาท

หลังจากเมื่อวันที่ 4-6 มีนาคม 67 จังหวัดนครราชสีมา นำโดย นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา  พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดงาน “มหกรรมพืชสวนโลก 2029” เดินทางไปพรีเซนต์เสนอตัวในนามตัวแทนประเทศไทย กับคณะกรรมการพืชสวนโลก ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อพิจารณาขอสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงาน “KORAT EXPO 2029” จากคณะกรรมการพืชสวนโลก

และเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 67 การประกาศผลการคัดเลือกให้จังหวัดนครราชสีมาได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงาน “มหกรรมพืชสวนโลกนครราชสีมา” พ.ศ.2572 มีขึ้นระหว่างการประชุมประจำปี 2567 ของสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) ที่กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ โดยผู้แทนจากทีมประเทศไทยที่เข้าร่วมประชุมและนำเสนอความพร้อมของประเทศไทยในรอบสุดท้ายประกอบด้วย ผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดนครราชสีมา หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ

โดยไทยจะต้องเตรียมเสนอตัวต่อ “องค์การนิทรรศการนานาชาติ” หรือ BIE (Bureau International des Expositions) ในลำดับต่อไปเพื่อรับการรับรองสู่การเป็นงานเอ็กซ์โประดับโลกอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน “โคราช เอ็กซ์โป 2029” หรืองาน “มหกรรมพืชสวนโลกนครราชสีมา” พ.ศ.2572 คาดการณ์ว่าจะสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ โดยก่อให้เกิดเงินสะพัดกว่า 18,942 ล้านบาท เพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) 9,163 ล้านบาท รายได้จากการจัดเก็บภาษี 3,429 ล้านบาท และสร้างงาน 36,003 อัตรา

สำหรับมหกรรม “พืชสวนโลก 2029” ครม.ได้อนุมัติงบ 4,281 ล้านบาทให้โคราชเป็นเจ้าภาพ จัดเป็นครั้งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ งานระดับ A1 หรือ WORLD HORTICULTURAL EXPOSITION ตั้งเป้าหมายมีผู้เข้าชมงาน 2.6 ล้านคน เป็นชาวต่างชาติร้อยละ 15 และมีประเทศเข้าร่วมงาน 30 ประเทศ ตลอดระยะเวลาจัดงาน 110 วัน จัดระหว่างวันที่ 10 พฤศจิกายน 2572 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2573

งานมหกรรม “พืชสวนโลก 2029” คอนเซ็ปต์แนวคิดการจัดงาน GREENERY ENVISIONING THE GREEN FUTURE “ธรรมชาติและพรรณพืชเขียวขจีอนาคตแห่งโลกสีเขียว” บนพื้นที่สาธารณประโยชน์ “โคกหนองรังกา” ต.เทพาลัย อ.คง จ.นครราชสีมา เนื้อที่จัดงาน 678 ไร่

ทั้งนี้ ประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพจัดงาน “มหกรรมพืชสวนโลก” ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 2549 โดยนับเป็นการจัดงานมหกรรมระดับโลกครั้งแรกในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย และยังได้รับรางวัลเหรียญทองจากความสำเร็จในการจัดงานในครั้งนั้นอีกด้วย

นายศิระ สว่างศิลป์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ ในฐานะหัวหน้าทีมประเทศไทย เปิดเผยว่า “รัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะผลักดันความสำเร็จของงานมหกรรมพืชสวนโลกที่กำลังจะจัดขึ้นในปี 2572 ณ จังหวัดนครราชสีมา หรือ โคราช ซึ่งเป็นประตูสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยศักยภาพอันโดดเด่นทั้งด้านประวัติศาสตร์ ความชำนาญในด้านเกษตรกรรม และความหลากหลายทางชีวภาพ”

นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “ในฐานะเมืองเจ้าภาพ จังหวัดนครราชสีมาพร้อมเปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนจากทั่วโลก เพื่อสัมผัสความหลากหลายทางวัฒนธรรมของประเทศไทย ผสานกับวิสัยทัศน์ในการสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน การจัดงานโคราช เอ็กซ์โป 2029 ครั้งนี้ จะเป็นการพลิกโฉมเมืองโคราช โดยยกฐานะสู่เมืองต้นแบบด้านนวัตกรรมสีเขียว”

นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “งาน KORAT EXPO 2029 หรือ “พืชสวนโลก 2572” ตามที่ทางจังหวัดนครราชสีมาได้เป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลก ทางหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ได้มีส่วนร่วมส่งเสริมผลักดัน และร่วมนำเสนอโครงงานให้กับ AIPH มานานกว่า 5 ปี การจัด KORAT EXPO 2572 จะสร้างระบบเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ โดยเริ่มต้นเงินลงทุนจากรัฐบาลกลาง 4,800 ล้านบาทและยังมีการลงทุนจาก นานาประเทศในการจัดทำบูธต่างๆ มากกว่า 35 ประเทศจากทั่วโลก ซึ่งการจัดบูธแต่ละครั้งใช้ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน”

“และจะมีการขนส่งจากต่างประเทศที่จะเข้ามา ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จะทำให้กระตุ้นเศรษฐกิจทางด้านระบบขนส่งทั้งทางอากาศ ทางเรือและการขนส่งทางบก ซึ่งจะทำให้เกิดการหมุนเวียนเงินมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และ เชื่อมโยงเศรษฐกิจของพื้นที่ในจังหวัดใกล้เคียงโดยรอบอาทิเช่น ขอนแก่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ ชัยภูมิ อุดรธานี และปราจีนบุรี การเชื่อมโยงในครั้งนี้ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา มีความตั้งใจที่จะเชื่อมโยงในระดับประเทศด้วย โดยจะมีการผลักดันเรื่องต่างๆผ่านหอการค้าไทย โดยท่านประธานสนั่น อังอุบลกุล จะเป็นผู้ร่วมขับเคลื่อนและเป็นกำลังสำคัญ”

“KORAT EXPO 2029 เป็นงานพืชสวนระดับโลก ซึ่งจะมีหลายประเทศเข้ามา ทั้งร่วมแสดงพืชพรรณ นวัตกรรม วัฒนธรรม และ เยี่ยมชมงานจำนวนมาก เป็นโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรทางการเงิน การลงทุนด้านเทคโนโลยี การพัฒนาด้านการศึกษาวิจัย การขนส่ง และยิ่งไปกว่านั้น จะเกิดการพัฒนาองค์ความรู้ให้กับบุคลากรท้องถิ่นของภาคอีสาน ถือเป็นโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆที่จะเข้าร่วมงาน”

“การยกระดับเทคโนโลยีในภาคการเกษตรก็เป็นอีกเรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพในการเกษตร งานนี้ถือเป็นโอกาสทองของการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง โดยการเข้าร่วมชมงานของนักท่องเที่ยวจากหลากหลายชาติ จะหลั่งไหลเข้าสู่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวและเสริมสร้างภูมิปัญญา แลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมได้อีกด้วย โดยภาพรวมๆ จังหวัดนครราชสีมาจะได้ประโยชน์อย่างมาก ทั้งด้านเศรษฐกิจการเงิน และ การพัฒนาการเกษตรพร้อมกับ การพัฒนาความสามารถของบุคลากรในระยะยาวอีกด้วย” ปธ.หอการค้าโคราช กล่าว

ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “ตนเองรู้สึกขอบคุณภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนตั้งแต่วันแรกที่ริเริ่มโครงการนี้ในสมัยของ อดีตผู้ว่าฯวิเชียร จันทรโณทัย, อดีตผู้ว่าฯกอบชัย บุญอรณะ และนายนิติพัฒน์ ขอดทอง นายอำเภอคง นายพิสุทธิ์ พร้อมจะบก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเทพาลัย”

“นับแต่นี้ต่อไปถือว่าเป็นงานหนักของพวกเราชาวโคราชและชาวไทยทุกคนที่จะช่วยกันเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดงานในครั้งนี้ด้วยการทำงานกับทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนด้านการท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดและภูมิภาครวมถึงระดับประเทศด้วยในมิติด้านการท่องเที่ยวย่อมถือเป็นข่าวดีที่จะเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติให้รู้จักภาคอีสานมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะมีการคาดการณ์ว่างานนี้จะมีนักท่องเที่ยวมากถึง 4 ล้านคนในช่วงเวลาของการจัดงานดังกล่าว”