สตาร์ทอัพความสัมพันธ์คืบหน้าหลังจาก “ผู้ว่าฯ-หอการค้าโคราช” เหินฟ้าร่วมพิธีลงนามอย่างเป็นทางการ เซ็น MOU “บ้านพี่เมืองน้องโคราช – เฉิงตู” ปรากฏการณ์ผูกมิตรสร้างพันธมิตรใหม่ครั้งสำคัญบิ๊กโครงการใหญ่ข้ามชาติสร้างสัมพันธ์ “บ้านพี่เมืองน้อง หรือ SISTER CITY” ร่วมเซ็น MOU 2 เมือง 2 ชาติ อย่างเป็นทางการแล้ว ล่าสุดแต่งตั้ง “สมชัย ฉัตรพัฒนศิริ” ประธานสมาคมมิตรภาพไทย-จีน นครราชสีมา, อดีตปธ.หอโคราช 2 สมัย และอดีตส.ส. นั่งแท่นแม่ทัพ “ชมรมมิตรภาพโคราช-เฉิงตู” คนแรกตั้งเป้าโคราช-เฉิงตูจะเป็น“ต้นแบบบ้านพี่เมืองน้อง หรือ SISTER CITY”
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6-9 พฤษภาคม 2560 ผู้ว่าฯวิเชียร จันทรโณทัย นำคณะนายกเหล่ากาชาด รองผู้ว่าฯ หัวหน้าส่วนจังหวัดฯร่วมกับคณะนักธุรกิจพ่อค้าคหบดี และหอการค้าโคราช รวมแล้วกว่า 30 คน ได้เดินทางไปเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน เพื่อไปร่วมเซ็น MOU อย่างเป็นทางการและสมบูรณ์แบบ และจะเป็นจุดเริ่มต้นในการเปิดความสัมพันธ์ทุกด้านของบ้านพี่เมืองน้องหรือ SISTER CITY ได้เลย
สำหรับโครงการเซ็น MOU กับเมืองเฉิงตู ครั้งนี้ นายชัชวาล วงศ์จร ประธานหอการค้าโคราช เปิดเผยว่า “การเซ็น MOU “บ้านพี่เมืองน้องโคราช–เฉิงตู หรือ SISTER CITY” ครั้งนี้ถือเป็นโครงการใหญ่ของโคราชรวมถึงเป็นความตั้งใจของจีนด้วย เพราะเขาเล็งเห็นว่า ต่อไปภาคอีสานจะเป็นภูมิภาคที่สำคัญของไทย และเห็นในเรื่องการท่องเที่ยวของภาคอีสานด้วย ทำให้เขาติดต่อมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อขอทำ MOU กับนครราชสีมาโดยตรง”
“การเซ็น MOU เพื่อให้โคราชเป็นบ้านพี่เมืองน้อง หรือ SISTER CITY กับเมืองเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ประเทศจีนครั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวภายในจังหวัด รวมถึงการแลกเปลี่ยนนักเรียนจีนมาเรียนกับเรา และเราไปเรียนกับนักเรียนจีน แม้แต่เรื่องของกีฬา ประเพณีและวัฒนธรรม อาหารการกินฯลฯ”
โดยเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะจังหวัดนครราชสีมานำโดย นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กับ Mr.Yin Li ผู้ว่าการมณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมงานเจรจาทางธุรกิจ กับผู้ประกอบการมณฑลเสฉวนและเซ็นลงนามเป็น “บ้านพี่เมืองน้อง หรือ SISTER CITY” เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
โดยทั้ง 2 ฝ่ายยินดีให้ความร่วมมือกันในหลายด้านทั้ง ด้านการค้า การลงทุน วัฒนธรรม การศึกษา เทคโนโลยี การท่องเที่ยว การนำเข้าและส่งออก เป็นต้น ครั้งนี้ได้มีการจัดงาน BUSSINESS MATCHING ระหว่างนักธุรกิจโคราชและจีน โดยนักธุรกิจจีนมีความต้องการอาหารจากโคราชหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นข้าวหอมมะลิ น้ำผึ้ง ผัดหมี่โคราช หมูหยอง และอาหารแปรรูปทุกชนิดฯลฯ
และเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.60 ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณปริสุทโธ ศาลากลางจังหวัด นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานประชุมสรุปผลการเดินทางเยือนมณฑลเสฉวน เพื่อเจรจาจับคู่ธุรกิจและสถาปนาความสัมพันธ์ มีนายธนพล จันทรนิมิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อม นายชัชวาล วงศ์จร ประธานหอการค้าฯ นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ รองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ประธานสมาคมมิตรภาพไทย-จีน ร่วมประชุม
จากการประชุมหารือจับคู่ธุรกิจระหว่างนักธุรกิจชาวจังหวัดนครราชสีมา และมณฑลเสฉวนซึ่งผลการเจรจาประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน พร้อมมีแผนการเดินทางเยี่ยมเยือนดูสถานที่/กิจการ และกิจกรรมท่องเที่ยว ในการสรุปประชุมเพื่อขับเคลื่อนการค้าระหว่างกันในครั้งนี้ เห็นควรให้มีการตั้งคณะทำงานในการทำงาน เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ให้เกิดความต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการสร้างมิตรภาพ และความสัมพันธ์ระหว่างกัน
โดยมีแผนที่จะทำการเยี่ยมเยือนกันอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากกลุ่มคณะแบบรายกิจการ เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ทางการค้า ส่งเสริมเศรษฐกิจร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม และอยู่ภายใต้การเสริมสร้างความเข้าใจและไมตรีจิตระหว่างกัน ร่วมมือซึ่งกันและกันเพื่อส่งเสริมความมั่งคั่ง และการพัฒนาร่วมกัน บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกันและประโยชน์ร่วมกัน ภายในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของตนและเท่าที่ทำได้ตามกฎหมายและข้องบังคับที่มีผลใช้บังคับในแต่ละประเทศของคู่ภาคี สนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของตนติดต่อกันโดยตรงเพื่อร่วมมือกัน สนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของเจ้าหน้าที่ของคู่ภาคี จัดให้มีการประชุมเพื่อติดตามและประเมินผลการดำเนินงานร่วมกันเป็นประจำทุกปี ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายอย่างจริงจัง
พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้คัดเลือกให้ นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ประธานสมาคมมิตรภาพไทย-จีน นครราชสีมา อดีตปธ.หอโคราช 2 สมัยและอดีตส.ส. เป็นประธานชมรม“มิตรภาพโคราช-เฉิงตู” คนแรกอีกด้วยด้วย
ด้านนายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ประธานชมรม“มิตรภาพโคราช-เฉิงตู” กล่าวว่า “โครงการผูกสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องโคราช-เฉิงตู เป็นโครงการของจังหวัดกับมณฑล ที่มีความเห็นพร้องต้องกันว่า เราน่าจะมีการส่งเสริมความร่วมมือซึ่งกันและกัน ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเงียบ เพราะแต่ละประเทศก็มีองค์กรต่างๆอยู่แล้ว มีสถานกงสุนส่วนใหญ่การไปมาหาสู่กันต้องใช้เงิน ที่ผ่านมาจังหวัดอื่นที่เคยเซ็น MOU ไว้ก็เลยซบเซา แต่โคราชเป็นจังหวัดที่2 ของไทยเราก็มองว่าการที่เราไปเซ็น MOU ครั้งนี้ก็น่าทำให้เป็นต้นแบบได้”
“เพราะฉะนั้นเราต้องเริ่มจากการเดินทางไปมาหาสู่กันก่อนคือคนในโคราชต้องรู้จักคนในเฉิงตูก่อน โดยต้องเริ่มจากผู้นำของแต่ละท้องถิ่นกับของมณฑล จึงต้องเกิดคณะองค์กรชมรม“มิตรภาพโคราช-เฉิงตู”ขึ้นมาก่อน ที่ทุกคนต้องเสียสละ มีไฟแรง มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้บ้านพี่เมืองน้องเกิดผลดีต่อจังหวัดก่อนที่จะไปทำธุรกิจด้วยกันจึงเกิดชมรมนี้ขึ้นมา”
นายสมชัย กล่าวอีกว่า “หากทั้ง 2 ฝ่ายมีความพร้อมที่จะส่งเสริมกัน ไว้เนื้อเชื่อใจกันมองปัญหาที่เคยมีมาปัญหาที่เคยเกิดขึ้น แม้แต่ซีพี.ก็ยังไปลงทุนที่จีนก็ยังมีปัญหา เพราะฉะนั้นต้องมาสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นก่อน ทำให้เกิดความเข้าใจก่อนมันก็จะเกิดผลทุกอย่างในมุมที่ดีตลอด ซึ่งเรื่องนี้เป็นโอกาสที่สำคัญ แต่ก็ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์และการเตรียมตัวของนักธุรกิจด้วย มีความพร้อมแค่ไหน โดยเฉพาะส่วนราชการมีความตื่นตัวมาก ซึ่งนโยบายของรัฐบาลให้หน่วยงานราชการสนับสนุนข้ามชาติได้ หลังจากเซ็นสัญญาภาครัฐก็จะให้การสนับสนุนตลอดไปอีกด้วย”
“เราตั้งเป้าว่าโคราช-เฉิงตูจะเป็นต้นแบบ “บ้านพี่เมืองน้อง หรือ SISTER CITY” อย่างกรุงเทพฯมีการเซ็นกับ 50 กว่าประเทศ แต่เราไม่เคยรู้เรื่องเลยว่าคืออะไร จึงเป็นโอกาสของโคราชที่จะทำได้โดยจะพยายามทำให้เป็น “บ้านพี่เมืองน้องต้นแบบ” ให้ได้ เราต้องอ่าน MOU ให้เข้าใจมีหน้าที่หลักคอยส่งเสริมและต้องมีคณะบุคคลที่จะเชื่อมโยงสู่มิตรภาพที่แน่นแฟ้น ทั้งเรื่องของวัฒนธรรม การเรียนรู้ การศึกษา การแลกเปลี่ยนนักเรียน และเชื่อมโยงไปถึงธุรกิจ โดยทำยังไงให้มีความไว้ใจเชื่อใจกันเกิดขึ้น จะทำให้บ้านพี่เมืองน้องเป็นเสมือนยาวิเศษที่จะพึ่งพาอาศัยกันตลอดไป” นายสมชัย กล่าวทิ้งท้าย