ต้อนรับปีมะโมง 2567 จ.นครราชสีมา เตรียมงานใหญ่ “ฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี” ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม- 3 เมษายน 2567 และพิธีสำคัญเปลี่ยนผ้าสไบผืนใหม่ให้ย่าโม เป็นสไบพระราชทานฯ โดยผู้อยู่เบื้องหลังออกแบบและถักสไบห่ม “ย่าโม” คือ “ครูหน่อย”นางพัชรินทร์ นพคุณางกูล ครูบำนาญโรงเรียนวัดสระแก้ว ที่ทำมาอย่างต่อเนื่องตลอด 8 ปี เผยปีนี้ 2567 สไบสีม่วง-ทอง ทำด้วยใจศรัทธาโดยไม่คิดเงินขอถวายให้ “ย่าโม” เหตุเล่าสืบกันนานมมาครอบครัวสมัยยายทวดได้เคยรับใช้ใกล้ชิด “คุณหญิงโม”

ผ้าสไบของ “ท้าวสุรนารี หรือ ย่าโม” จะมีการเปลี่ยนใหม่เนื่องในงานวันฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำทุกปี ส่วนปีล่าสุด 2566 ที่ผ่านมา “สไบเป็นสีส้ม-ทอง” โดย นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้อัญเชิญเปลี่ยนผ้าสไบ ซึ่งเป็นสไบพระราชทาน โดยแต่ละปีสไบจะมีลายและสีที่แตกต่างกันไป มีความวิจิตรสวยงามอย่างมาก เป็นบุญตาที่ชาวโคราชและผู้มาสักการะขอพรย่าโมได้เห็น และสำหรับผู้ออกแบบและถักผ้าสไบ “ย่าโม” เป็นฝีมือของ “ครูหน่อย”นางพัชรินทร์ นพคุณางกูล ที่ทำถวายมาตลอด 8 ปี

“ครูหน่อย”นางพัชรินทร์ นพคุณางกูล ครูบำนาญโรงเรียนวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า “ผ้าสไบคุณย่าโม พี่ได้รับความไว้วางใจจากทางจังหวัดโดยเสมียนตราตราจังหวัดฯเป็นผู้ให้ทางพี่เป็นคนออกแบบและถักผ้าสไบประจำปี ในงานฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ทำมาได้ 7 ปีแล้ว ส่วนเรื่องสีของสไบที่เปลี่ยนทุกปี เมื่อก่อนที่ลานย่าโมจะมีร่างทรงย่าโมเป็นคนแก่ จะบอกว่าปีนี้สไบจะเป็นสีอะไร แต่พอร่างทรงเสียชีวิต ทางจังหวัดก็เลยมายึดวันที่ 23 มีนาคมปีนี้ตรงกับวันอะไรก็ให้ใช้สีตามวันนั้นเลย จะได้ไม่ต้องมาคิดให้ยุ่งยากก็เลยยึดหลักการสีสไบมาถึงวันนี้”

“การถักผ้าสไบผืนใหม่ให้ย่าโม จะใช้เวลาทำไม่ต่ำกว่า 2  เดือนเฉพาะผืนใหญ่ที่จะห่มให้ท้าวสุรนารีในงานย่าโม ส่วนผืนเล็กที่มอบให้ 32 อำเภอจะมีลูกน้องมาช่วยทำ ซึ่งผ้าสไบนี้พี่ทำให้โดยไม่คิดค่าทำหรือค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ขอทำถวายคุณย่าโม ส่วนสไบของ 32 อำเภอคิดเฉพาะค่าวัสดุเท่านั้น รวมถึงบายศรี ในพิธีวันเปิดงานย่าโมพี่ก็เป็นคนทำด้วย”

“พี่จะออกแบบลายสไบตลอดเวลาที่ลงมือทำ ไม่ได้วางแบบทีเดียวแล้วทำตามจะคิดไปด้วยถักไปด้วยและไม่ได้เรียนด้านนี้มาโดยตรง ไม่ได้จบหัตถกรรม ส่วนปี 2567 ได้เริ่มเตรียมผ้าทำสไบไว้แล้วเป็น “สีม่วง-ทอง” เพราะวันที่ 23 มีนาคม 2567 ตรงวันเสาร์”

ครูหน่อย กล่าวอีกว่า “ที่ผ่านมาความยาวของผ้าสไบสั้นไปทาง “ช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร” ได้แจ้งมาว่าผ้าสไบช่วงปลายเวลาโดนลมจะพัดกระทบองค์สำริดย่าโม ทำให้เป็นรอย มาปีนี้เลยแก้ปัญหาทำสไบยาวขึ้นเอาผ้าแก้วมารองด้านหลังช่วยกันกระแทก ซึ่งสไบมีความยาว 3.50 เมตร มีน้ำหนัก 5 กิโล วัสดุที่ใช้ต้องมีคุณภาพ มีความคงทนทั้งแดดลมและฝน เพราะต้องอยู่ถึง 1 ปี”

“ครอบครัวครูหน่อย เป็นคนโคราช เป็นลูกทหาร ย้อนหลังตั้งแต่รุ่นคุณยายทวด ซึ่งน้องของยายทวดเป็นคนรับใช้ใกล้ชิด “คุณหญิงโม” สมัยสาวๆทำให้ครอบครัวรุ่นต่อรุ่นผูกพันกับย่าโมถึงปัจจุบัน ซึ่งยายจะอยู่แถววัดบึง ส่วนตาจะอยู่แถววัดสระแก้ว เมื่อสมัยนั้นคุณหญิงโม จะมาทำบุญทุกวันพระใหญ่ที่วัดสระแก้ว และจะให้ทางน้องยายทวด ทำกับข้าวเพื่อถวายพระทำบุญ ทั้งๆที่สมัยก่อนบ้านคุณหญิงโม อยู่แถววัดพระนารายณ์ฯ เป็นเรื่องที่ญาติหลายรุ่นเล่าให้ฟังต่อเนื่องมา”

ครูหน่อย กล่าวต่อว่า “ก็เป็นเรื่องแปลกที่ประวัติของครอบครัวครูหน่อย ตั้งแต่รุ่นยายทวดมีความผูกพันกับคุณหญิงโม มาก่อนและทำให้พี่ได้มาเป็นผู้ทำผ้าสไบให้คุณย่าโมในปัจจุบันถึง 8 ปีติดต่อกันแล้ว ผู้ใหญ่ก็บอกว่าเหมือนคุณย่าโมอยากให้ครอบครัวครูหน่อย เป็นคนทำสไบให้”

“ครูหน่อยได้รับโอกาสทำถวายคุณย่าเป็นปีที่ 8 ภูมิใจที่เป็นตัวแทนสะพานบุญในนามชาวโคราชและลูกหลานรุ่นที่5 ของคุณยายทวดที่เป็นคนรับใช้ใกล้ชิดคุณย่า ขอขอบคุณเสมียนตราจังหวัดที่ให้โอกาส ทำในสิ่งที่ชอบ ทำด้วยใจ ไม่ได้มีลวดลายหรือเทคนิคพิเศษ ขอบารมีคุณย่าปกปักษ์รักษาให้ครอบครัวญาติมิตรและชาวโคราชร่มเย็นเป็นสุขมีสุขภาพกายสุขภาพจิตที่ดีปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงด้วยเทอญ” ครูหน่อย กล่าวทิ้งท้าย