“ททท.โคราช” ชวนสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร พร้อมเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมอีสานที่ “จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม” อำเภอปักธงชัย  หวังกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ช่วงเทศกาลปีใหม่ ปีนี้จัดเต็มในธีม “ไอเขียนเลตเตอร์ถึงเธอฟาร์มจิม” จัดถึงวันที่ 2 มกราคม 2567 เท่านั้น

นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รักษาการ ผอ.ททท. สำนักงานนครราชสีมา เปิดเผยว่า “ททท.สำนักงานนครราชสีมา สนับสนุนการท่องเที่ยวฤดูหนาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ “จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม” อำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา ปีนี้นำเสนอจุดขายในธีม “ไอเขียนเลตเตอร์ถึงเธอฟาร์มจิม” ต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันนี้จนถึง 2 มกราคม 2567”

“คาดการณ์จะมีนักท่องเที่ยวจากในพื้นที่และจังหวัดอื่นๆ เข้าเยี่ยมชมวันธรรมดา จันทร์-ศุกร์ ประมาณ 1,000 คนต่อวัน ส่วนวันหยุดนักขัตฤกษ์และเสาร์-อาทิตย์ จะมีประมาณ 1,500 คนต่อวันเป็นกลไกนำท่องเที่ยวสร้างรายได้หมุนเวียนเข้าสู่พื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม”

“ปกติระหว่างเดือนธันวาคม ถึงต้นเดือนมกราคมของทุกปีทาง “จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม” แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเมืองดอกไม้ยอดนิยมจะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งสร้างรายได้ให้เกษตรกรสม่ำเสมอ เป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม สร้างความสุขและประสบการณ์อันแปลกใหม่ให้ผู้ชม และเกษตรกรผ่านกิจกรรมและนิทรรศการศิลปะอีกหลากหลาย”

“เพิ่มรสชาติการท่องเที่ยวให้สนุกสนานมากขึ้น โดยจัดต่อเนื่องมาเกือบ 20 ปี พร้อมกับเปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้คนทั้งใกล้และไกล ได้เข้ามาสัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติและซึมซับวิถีชีวิตแบบอีสานท้องถิ่นกันอย่างลึกซึ้งถึงแก่นรากวัฒนธรรม นำมาส่งต่อให้ได้สัมผัสจนหายคิดถึงกันตลอดทั้งงาน”

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า “ภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้พักผ่อนรับลมหนาวใน “จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม” เช็คอินถ่ายภาพทุ่งดอกไม้ ทุ่งนา หมู่บ้านอีสานแลนด์มาร์กสวยๆ และร่วมกิจกรรมกับนิทรรศการการนำเสนออัตลักษณ์อีสานที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต สื่อบันเทิง และวัฒนธรรมความเชื่อของชาวอีสาน ใน 4 โซนหลัก ได้แก่”

“โซนที่ 1 นิทรรศการ Lam Loke, The World of Molam (Lam Loke, The World of Molam Exhibition): มาเยือนถิ่นอีสานทั้งที หากใครเป็นสายม่วนจอยตัวจริง จะต้องชื่นชอบและพุ่งตรงมาที่นิทรรศการนี้ก่อนใครเพื่อนแน่นอน เพราะจะได้พบกับเรื่องราวของหมอลำที่ทำให้คุณสนุกกับการฟังหมอลำมากขึ้น”

“1.นิทรรศการแรก -อเมริกัน-อีสาน : American-Isan Exhibition): จาก ‘จดหมายเมียเช่า’ ถึงภาพจริงในประวัติศาสตร์อีสาน นิทรรศการนี้เลยอยากชวนให้ผู้เยี่ยมชมทุกคนได้ลองมาทำความเข้าใจถึงแก่นรากของวิถีชีวิตระหว่างอีสานและฝรั่งว่ามีจุดเริ่มต้นอย่างไร และผสมผสานออกมาเป็นอย่างไรในปัจจุบัน”

“2.นิทรรศการ 2 -หม่อนไหม (Monmhai Mulberry Silk Exhibition): พบกับวงจรชีวิตหม่อนไหม การสาธิตการทอผ้าไหมแบบวิถีถิ่น และจะพาทุกคนไปเวิร์กช็อปทำผ้าไหมจากภูมิปัญญาชาวบ้าน เหมาะกับสายคราฟต์ที่อยากลองลงมือทำ”

“3.นิทรรศการข้าว (Rice is Life Exhibition) ทุกคนจะได้ลองชิมข้าวไทยหลากสายพันธุ์ พร้อมสัมผัสกับกระบวนการผลิตจากคนทำสู่คนกินกันแบบใจถึงใจ และสำรวจความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในการแปรรูปข้าวให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่น่าสนใจและเปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์ เพราะข้าวไม่ได้เป็นเพียงแค่อาหารหลักของคนอีสานแต่หากเป็นวิถีชีวิตที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน”

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า “สำหรับโซนที่ 2 มี 2 กิจกรรม ชวนมาร่วมสนุก รับอาวุธทางปัญญากับเรื่องราวลงลึกแผ่นดินอีสาน ดังนี้ กิจกรรมแรก “เวิร์กชอป” ร่วมซึมซับวัฒนธรรมอีสานกับหลายกิจกรรมได้ฟรี ค่าบัตร เช่น เวิร์คช้อปสาวเส้นไหม อิ้วฝ้ายและการเข็นฝ้าย ทอผ้าไหม ทำขนมงานบุญในประเพณีอีสาน ปั้นเซรามิก ทำสาโท ทำเทียนพรรษา ร่วมสร้างปราสาทข้าว พื้นฐานหมอลำ การเล่น การร้อง การฟ้อน งานศิลปะภายในฟาร์ม”

“กิจกรรมที่ 2 ทอล์ก จัดเวทีล้อมวงฟังเรื่องเล่าจากเหล่าวิทยากรคนสำคัญ แวะเวียนมาแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนอีสานแบบลงลึก เกี่ยวกับเรื่องราวของข้าวที่คนอีสานปลูก ความทรงจำอเมริกัน-อีสาน พิธีกรรม และอื่น ๆ มีทุกวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุด (ยกเว้นช่วงสุดสัปดาห์สุดท้าย) เสริมพิเศษตลอดงานบริเวณศาลากลางหมู่บ้านอีสาน”

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า “และโซนที่ 3 เวทีดนตรี เที่ยวแบบชิลตามเสียงเพลงเพราะๆ ของเหล่าศิลปินท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติของ “จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม” ได้ 2 เวทีได้แก่ เวทีแรก American Isan Stage โชว์คอนเสิร์ตจากวงดนตรีโฟล์กและดนตรีคันทรี พร้อมหมุนเวียนมามอบความสุขตลอดวัน อย่างวง The Hopper, SUNDER, Hang Over และ วง อ๊อด บ้านช้าง”

“ส่วนเวทีที่ 2 เปิดกิจกรรมใหม่ในฟาร์มปีนี้เต็มอิ่มกับหมอลำช่วงค่ำ ระหว่าง 20.00-22.00 น. คือ Molam Music ฟังคอนเสิร์ตจากศิลปินหมอลำร่วมสมัยที่มีฝีไม้ลายมืออย่าง E-San Fusion, ต้นตระกูล แก้วหย่อง x นริศรา ศักดิ์ปัญจโชติ (Tontrakul Kaewyong x Narisara Sakpunjachot), รัสมี อีสานโซล (Russmee I-San soul) และออทิดสา หมอลำแบรนด์ x อ๊อฟ สุรพล”

“ปิดท้ายโซนที่ 4 ร้านอาหารและของที่ระลึก ทางฟาร์มได้คัดสรรร้านอาหารมาเสิร์ฟเมนูอร่อยๆ ครบทั้งอาหารอีสาน และอาหารคอมฟอร์ตฟู้ด ตอบโจทย์สายช้อปของที่ระลึก ร้านค้ามีทั้งสินค้าจากฟาร์มราคาพิเศษ และสินค้าที่ระลึกซื้อได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น” นายอรรถพล กล่าวทิ้งท้าย