“เทศบาลโคราช” คำราม!! เล่นใหญ่บิ๊กเซอร์ไพรส์พลิกโฉมจัดงาน “แห่เทียนโคราช” โชว์ขบวนแห่สุดอลังการ ประกวดต้นเทียนชิงถ้วยพระราชทาน ไฮไลท์เพียบ พร้อมการแสดงแสง สี เสียง “โขนดนตรีออเคสตร้าประกอบต้นเทียน” อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระนาคปรก อายุกว่า 1,500 ปีจากวัดพระนารายณ์ ประกาศลั่นยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน พร้อมปิดถนนหน้าลานย่าโม จัดยาว 4 วัน เป็นรูปแบบถนนคนเดินจัดให้เป็นแลนด์มาร์ค “งานแห่เทียน”

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม2566 ณ ศาลาไทย ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี “เทศบาลนครนครราชสีมา” จัดแถลงข่าวงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2566 ภายใต้ชื่องาน “แสงเทียนแห่งศรัทธา แห่เทียนพรรษาเมืองโคราช” Korat : The City of Candle Light ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-4 สิงหาคม 2566  ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สวนสุรนารี และสวนเมืองทอง

โดยมีนายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานพร้อมด้วย นายประเสริฐ บุญชัยสุข  นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา, พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา, นางสาวกรรณิการ์ พัฒนพีระเดช นายกเทศมนตรีตำบลพิมาย, นางสุทิน ชาติพุดซา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกระทุ่ม, นางสาวเกตน์สิรี สมบูรณ์ศิลป์  รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฏฐินี ทองดี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ และนายวัชรพล โตมรศักดิ์ ประธานที่ปรึกษานายกเทศมนตรี ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้  ณ ศาลาไทย ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี 

สำหรับไฮไลท์ “งานแห่เทียนโคราช” มี การประกวด “ต้นเทียนพรรษา” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, การประกวดขบวนแห่ต้นเทียนที่วิจิตรตระการตาแสดงความเป็นอัตลักษณ์ของโคราช รวมถึงสีสันของขบวนแห่ที่หลากหลาย, พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานบุษบกและอัญเชิญพระนาคปรกอายุกว่า 1,500 ปีจากวัดพระนารายณ์มาประดิษฐานบริเวณลานย่าโมให้พี่น้องประชาชนได้กราบไหว้สักการะ, พิธีเจริญพระพุทธมนต์, การหล่อเทียนพรรษาถวายวัดเป็นพุทธบูชา, กิจกรรม Workshop สืบสานวัฒนธรรมทำเทียนพรรษาโคราชที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม และการแสดงดนตรี แสง สี เสียง ภายในงาน เป็นต้น

นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา เปิดเผยว่า “เทศบาลนครนครราชสีมา ได้กำหนดจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2566 เพื่อสืบสาน รักษาต่อยอดวัฒนธรรมมรดกไทยทางพระพุทธศาสนาและขนบธรรมเนียมประเพณี ให้ยังคงความดีงามอย่างยั่งยืน ทำนุบำรุงรักษาไว้ซึ่งสิ่งอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะด้านที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา และร่วมสร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นการต่อยอดองค์ความรู้สู่สังคมไทย”

“ซึ่งปีนี้จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเมืองโคราชหลังจากสถานการณ์โควิด–19 อีกทางหนึ่ง จุดเด่นของปีนี้คือการประกวดต้นเทียนพรรษาชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีวัดที่ให้ความสนใจเข้าร่วมประกวดถึง 12 วัด และยังมีการประกวดขบวนแห่จากภาคประชาชน สถานศึกษา หน่วยงานต่างๆ อีก 5 ขบวนแห่ ที่จัดขึ้นในวันที่ 2 สิงหาคม 2566 โดยจะเคลื่อนขบวนแห่ไปยังเส้นทางต่างๆรอบเมืองตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป”

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า “งานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2566 “แสงเทียนแห่งศรัทธา แห่เทียนพรรษาเมืองโคราช” Korat : The City of Candle Light ในระหว่างวันที่ 1 – 4 สิงหาคม 2566  ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี กิจกรรมภายในจะมีการประกวดต้นเทียนพรรษา ประเภท ก และประเภท ข, การประกวดขบวนแห่, พิธีทำบุญตักบาตร, มีการจัดขบวนเทิดพระเกียรติ อัญเชิญถ้วยรางวัลพระราชทาน จำนวน 5 ขบวน ประกอบด้วย ขบวน “แสงสว่างกลางใจประชา” (ขบวนนำ), ขบวน “แสงเทียนแห่งศรัทธา”, ขบวน “แสงเทียนแห่งอารยชน” , ขบวน แสงเทียนแห่งบรรพชีวิน”

“และขบวน “แสงสว่างแห่งเสรี”, การแสดงแสง สี เสียง การแสดงโขน การแสดงดนตรีออเคสตร้าประกอบต้นเทียน, การแสดงดนตรี การแสดงศิลปวัฒนธรรม, การสาธิตการแกะเทียน การพิมพ์เทียน การให้ความรู้ทางศิลปะ การหล่อเทียนที่ประชาชนได้มีส่วนร่วม การนำเทียนที่หล่อไปถวายวัดร่วมกันเพื่อรักษาวัฒนธรรมอันดีงาม การจัดนิทรรศการให้ความรู้เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักและเห็นคุณค่ามรดกทางศิลปวัฒนธรรม เผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมการแห่เทียนพรรษามิให้สูญหาย” นายประเสริฐ กล่าว