ขอสะพานลอยเร่งด่วน! เด็กนักเรียนโคราช “โรงเรียนบ้านส้มมิตรภาพที่ 93” อ.โนนสูง ต้องเสี่ยงตาย! วิ่งข้ามถนนหลวง 4 เลนเช้า-เย็น และถนนเป็นทางโค้ง เจ้าหน้าที่-ตำรวจฯคอย “โบกธงแดง” เป็นสัญญาณเตือน ล่าสุด! ข่าวดี “ผอ.แขวงทางหลวงโคราช” ยืนยัน ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้บรรจุลงในแผนของบปี 67 แล้ว คาดหลังอนุมัติจะเริ่มทำสัญญาจ้าง เตรียมสร้าง “สะพานลอย” งบประมาณ 10 ล้านบาท
ความคืบหน้ากรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงบ้านส้ม อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา รอโบกหยุดรถให้ครูและนักเรียน “โรงเรียนบ้านส้มมิตรภาพที่ 93” ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ บริเวณหมู่ที่ 2 บ้านส้ม ตำบลดอนชมพู อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ได้ข้ามถนนไปอีกฝั่งทั้งในช่วงเช้าและเย็นทุกวันจันทร์ถึงศุกร์
โดยมีครูของโรงเรียนมาช่วยเจ้าหน้าที่คอย “โบกธงแดง” เป็นสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ด้วย ท่ามกลางสภาพการจราจรที่ดูอันตรายอย่างมาก เพราะเป็นถนนหลวง นครราชสีมา – ขอนแก่น รวม 2 ฝั่งมีถึง 4 ช่องจราจรและไหล่ทางกว้าง รถจึงสัญจรด้วยความเร็ว ประกอบกับสภาพเส้นทางจะเป็นทางโค้งมาจนถึงช่วงหน้าโรงเรียน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงต้องเสี่ยงตาย คอยโบกให้สัญญาณแก่ผู้ขับขี่ได้ชะลอความเร็วและหยุดรถ เพื่อเปิดทางให้เด็กนักเรียน ครู และผู้ปกครองได้ข้ามถนนไปอีกฝั่ง
นางสิริวิมล มุลานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านส้มมิตรภาพที่ 93 ซึ่งเปิดเผยว่า “ทางโรงเรียนประสบปัญหาอย่างมากเวลานักเรียนจะข้ามฝั่งมาโรงเรียน และจะเดินทางกลับไปบ้าน เพราะถนนมิตรภาพเส้นนี้รถจะขับเร็ว ข้ามถนนยาก ไม่มีสะพานลอยให้เดินข้าม น่ากลัวที่สุดก็คือช่วงมีฝนตก ระยะเบรกของรถแต่ละคันจะยาว ประกอบกับสภาพถนนช่วงหน้าโรงเรียนจะเป็นทางโค้ง เวลาตำรวจทางหลวงมาช่วยโบกรถ จะเสี่ยงเกิดอันตรายอย่างมาก กลัวรถไถล เสียหลักพลิกคว่ำหรือมาเฉี่ยวชนคน เกิดความสูญเสียตามาก จึงอยากจะได้สะพานลอยมากที่สุด ต้องฝากความหวังไว้ที่กรมทางหลวงได้ช่วยจัดสรรงบประมาณลงมาช่วยเหลือด้วย”
ด้านนายสมัย งามศิริ คณะกรรมการสถานศึกษา กล่าวว่า “นักเรียนจะข้ามถนนมาโรงเรียนทุกวัน โดยมีตำรวจทางหลวง มาช่วยดูแล ซึ่งตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนมา ประมาณ 10 กว่าปีแล้ว ก็มีเด็กประสบอุบัติเหตุทางถนน ถูกรถชนเสียชีวิตไปแล้ว 1 ราย เพราะถนนเป็นทางโค้ง และรถขับมาเร็วไม่ต่ำกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงอยากให้สร้างสะพานลอยเพื่อความปลอดภัยของลูกหลาน ครู และชาวบ้านในแถบนี้ ซึ่งมีอยู่ราว 1,000 คน จะมีคนข้ามถนนบริเวณนี้ เพื่อมาโรงเรียนและกลับเข้าชุมชน ประมาณ 300-400 คนต่อวัน สะพานลอยคนข้ามจึงมีความสำคัญอย่างมาก”
นายพิชฌคุณ ส.วรเนตร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 1 เปิดเผยว่า “ได้เสนอแผนโครงการก่อสร้างสะพานลอย ไปยังสำนักอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวง เรียบร้อยแล้ว อยู่ในแผนงานรายประมาณการกิจกรรมปรับปรุงความปลอดภัยบริเวณหน้าโรงเรียน ประจำปีงบประมาณ 2567 ทางหลวงหมายเลข 2 ตอนควบคุม 0302 ตอน ดอนหวาย-บ้านวัด ในวงเงินงบประมาณ 10 ล้านบาท”
“ซึ่งจุดเริ่มต้นโครงการฯ จะเริ่มที่ช่วงระหว่าง กม.187+020 – กม.187+120 เขตพื้นที่ ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา โดยเจ้าของที่ดินฝั่งตรงข้ามในจุดที่จะดำเนินโครการก่อสร้าง ได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่แล้ว ล่าสุด! ได้ประสานไปที่กรมทางหลวง ทราบมาว่า ได้มีการบรรจุแผนโครงการฯ ไว้ใน พ.ร.บ.ปี 2567 ทั้งนี้ ในพื้นที่มีการร้องขอมาหลายจุด ทางแขวงฯ ได้เสนอขอไปยังกรมฯ ทุกจุดแล้ว ทางกรมฯ ก็จะพิจารณาจุดที่มีความจำเป็นเร่งด่วนก่อน และจะผลักดันให้ได้ครบทุกจุดตามลำดับต่อไป ซึ่งทุกจุดก็มีความจำเป็น เพราะความปลอดภัยของผู้ใช้ทาง ทั้งคนเดินเท้าและผู้ขับขี่ล้วนมีความสำคัญกันทุกคน จึงพยายามดำเนินการตามที่ร้องขอกันอย่างเต็มที่”
“สำหรับสะพานลอยที่จะดำเนินการจะเป็นสะพานลอยคนเดินข้าม โครงสร้างเป็นเหล็ก มีการทำทางเท้าให้เด็กนักเรียนเดินบนทางเท้า และขยายจุดจอดรถเพิ่ม เพื่อให้สามารถจอดรถรอรับลูกหลานได้อย่างปลอดภัย ไม่ไปรบกวนทางสายหลัก ซึ่งทางแขวงฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการประสานในทุกมิติไว้แล้ว ทั้งในส่วนของเจ้าของที่ดินในบริเวณที่จะก่อสร้างฯ รวมไปถึง ประสานขอให้ทางกรมทางหลวง บรรจุโครงการก่อสร้างนี้ไว้ในแผนประมาณการฯ ปี 2567 ด้วย”
“ซึ่งหากอนุมัติงบปี 2567 ในปลายปีนี้แล้ว ก็พร้อมจะเริ่มทำสัญญาจ้างในช่วงเดือนมกราคม 2567 และลงมือก่อสร้างโดยเร็วต่อไป แต่จะใช้เวลาก่อสร้างจริงค่อนข้างนานประมาณ 200 กว่าวัน เพราะต้องเทคอนกรีตฐานราก วางตอม่อสะพาน แล้วจึงนำโครงเหล็กสะพานขึ้นประกอบ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ได้ประสานตำรวจทางหลวงช่วยอำนวยการจราจร และทางแขวงฯ ได้นำป้ายเตือนเขตโรงเรียนไปติดตั้งไว้แล้ว” ผอ.แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 1 กล่าว