“วัดหลวงพ่อโต” และครอบครัวพระเอกตลอดกาล เตรียมประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ “สรพงศ์ ชาตรี” วันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ ที่เมรุชั่วคราว ด้านภรรยา “ดวงเดือน จิไธสงค์” เผยจะทำให้ดีที่สุด เพื่อแสดงความอาลัยครั้งสุดท้าย

ที่มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตาบารมี ริมถนนมิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา “วัดหลวงพ่อโต” หรือ “วัดสรพงศ์” มีประชาชนจำนวนมากเข้ามาท่องเที่ยวอุทยานธรรม พุทธสถานมหาวิหารอันยิ่งใหญ่ ที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อโต พรหมรังสี องค์ใหญ่ที่สุดในโลก สูง 13 เมตร หน้าตักกว้าง 8 เมตร น้ำหนัก 61 ตัน และหลายคนแวะเวียนเข้าไปแสดงความไว้อาลัย สรพงศ์ ชาตรี หรือ นายกรีพงศ์ เทียมเศวต พระเอกตลอดกาล ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ประธานมูลนิธิหลวงพ่อโต ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565 สิริอายุ 73 ปี

โดยภรรยา “ดวงเดือน จิไธสงค์” และคณะกรรมการมูลนิธิฯ ได้นำร่างมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดหลวงพ่อโต เป็นเวลานานกว่า 7 เดือน และมีหมายกำหนดการพิธีพระราชทานเพลิงศพ วันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ (ครบ 245 วัน) ที่เมรุชั่วคราว ตั้งอยู่บริเวณลานที่โล่งด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ภายในมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งจัดเตรียมสถานที่ ทั้งก่อสร้างอาคารพลับพลา ฐานเมรุชั่วคราว และบริเวณโดยรอบ

นางดวงเดือน จิไธสงค์ ภรรยาของ “สรพงศ์ ชาตรี” กล่าวว่า “ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาช่วยงาน “พี่เอก” จนมาถึงครั้งสุดท้าย วันนี้เข้มแข็งมากขึ้น เพื่อเตรียมจัดงานทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ สำหรับคนคนหนึ่งที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับประชาชนคนไทย ผืนแผ่นดินไทย และพระพุทธศาสนา”

สำหรับ “พี่เอก”สรพงศ์ ชาตรี พระเอกตลอดกาล และ ศิลปินแห่งชาติ มีความผูกพันกับชาวโคราชมานาน ที่ผูกพันกับอีกบทบาท ของผู้สร้างก่อตั้งมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) หรือที่คนรู้จักกันดีในชื่อ “วัดสรพงศ์” ตั้งอยู่ที่ ริมถนนมิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ห่างจากตัวเมืองนครราชสีมาประมาณ 42 กิโลเมตร หากเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ไปนครราชสีมาจะผ่าน และเห็นได้อย่างชัดเจนเพราะสะดุดตาในความสวยงามของอาคารที่ก่อสร้างและการตกแต่งสถานที่โดยรอบ

และอีกบทบาทที่ “พี่เอก-สรพงศ์” ได้ร่วมแสดงแสง สี เสียง เรื่อง “ย่าฉันท่านชื่อโม” ในงานฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี สร้างความประทับใจให้กับชาวโคราชที่ได้ได้มาชมการแสดงอันทรงคุณค่า ด้านนักท่องเที่ยวเสียดายบุคคลที่สร้างคุณงามความดีเพื่อบ้านเมือง รู้สึกคิดถึง เพราะเมื่อก่อนติดตามผลงานมาโดยตลอด

สำหรับกำหนดจัดพิธีอาลัยครั้งสุดท้าย ระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2565 จะมีพิธีต่างๆ ดังนี้

วันที่ 5 พ.ย.65 เวลา 16.00 น. บำเพ็ญพระราชกุศลพระราชทานในการออกเมรุ พระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระสงฆ์ 4 รูป สวดธรรมคาถา พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม

วันที่ 6 พ.ย.65 เวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์แต่วันก่อนถวายพรพระ แล้วรับพระราชทานฉัน เวลา 11.30 น. พระสงฆ์ 10 รูป บังสุกุล เชิญหีบศพเวียนเมรุ แล้วเชิญขึ้นตั้งบนจิตกาธาน

เวลา 18.00 น. “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ

วันที่ 7 พ.ย.65 เวลา 17.00 น. พระราชทานผ้าไตรและภัตตาหารสามหาบ ในการเก็บอัฐิ