ปิดฉากแบบ “สมานฉันท์” อดีตบิ๊กองค์กรเอกชน “หอการค้าโคราช” เกิดเหตุไม่เข้าใจเรื่อง “เงินบริจาค” ระหว่าง 2 อดีตประธานหอฯ “ทวิสันต์ โลณานุรักษ์” และ “ชัชวาล วงศ์จร” เกือบแตกหัก! ถึงขั้นฟ้องหมิ่นประมาท ล่าสุด! ผู้ใหญ่หอการค้าฯ จับ 2 ฝ่ายเคลียร์ปัญหา จบแบบสนานฉันท์ พร้อมยืนยัน “หอการค้าสมานฉันท์ รวมใจ ก้าวไปด้วยกัน”

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 65 “หอการค้าโคราช” จัดงานแถลงข่าว “หอการค้าสมานฉันท์ รวมใจ ก้าวไปด้วยกัน” โดยมีนายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, ประธานคณะกรรมการตรวจสอบหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ประจำปีบริหาร 2564-2565, นายสุวัฒน์ จึงวิวัฒนาภรณ์ ที่ปรึกษาอาวุโสหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และนายชัชวาล วงศ์จร ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดนครราชสีมาร่วมขึ้นแถลงข่าว และนอกจากนี้มีประธานกิตติมศักดิ์หอการค้า, นายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ รักษาการประธานหอการค้าฯ, รักษาการคณะกรรมการหอการค้าฯ และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย

นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และประธานคณะกรรมการตรวจสอบหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ประจำปีบริหาร 2564-2565 กล่าวว่า จากที่ได้มีการร้องเรียนในเรื่องที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และก่อให้เกิดความเสียหายกับหอการค้าจังหวัดนครราชสีมานั้น จึงได้มีการจัดงานแถลงข่าวขึ้น เพื่อเป็นการทำความเข้าใจและสร้างสมานฉันท์ของหอการค้าฯ และเพื่อให้ประชาชนและสื่อมวลชนทุกท่านได้เข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้อง

นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “จากที่ได้เปิดใจคุยกับนายชัชวาล วงศ์จร ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา นั้น ก็ได้เข้าใจในบริบทของการดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าฯ และการเสียสละในการทำหน้าที่ประธานหอการค้าฯ เป็นอย่างดี เพราะต่างก็เคยผ่านจุดนี้มาก่อน”

“จึงขอชื่นชมนายชัชวาล วงศ์จร ที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่ประธานหอการค้าฯ ได้อย่างดีมาโดยตลอด และกล่าวขออภัยในเรื่องที่ผ่านมาที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนต่อกัน ซึ่งเกิดจากการไม่ได้พูดคุยกันก่อนหน้านั้นและได้รับข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนไป และขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านไม่ว่าจะเป็น นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ และนายสุวัฒน์ จึงวิวัฒนาภรณ์ ที่สร้างความสมานฉันท์นี้ให้หอการค้าฯ กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง”

นายชัชวาล วงศ์จร ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “ในการดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าฯ ในสมัยที่ผ่านมาต่างทุ่มเทเวลาและไม่มีการหวังผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นจากหอการค้าฯ รวมถึงคณะกรรมการหอการค้าฯ ทั้ง 35 คนด้วยนั้น ในส่วนของเรื่องร้องเรียนนั้นต่างฝ่ายต่างไม่ได้มีการพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิดกันไป ในประเด็นที่เกิดขึ้นจากโครงการพันธมิตรหอการค้าฯ สมัยที่ดำรงตำแหน่งอยู่และได้เป็นผู้คิดค้นโครงการนี้ขึ้นมา”

“จากการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัทห้าง ร้านต่างๆ และในฐานะที่ดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าอยู่ ณ ตอนนั้น จึงมอบหมายให้บุตรสาวที่เป็นผู้ดูแลธุรกิจโรงแรมแทนได้บริจาคเงินให้กับหอการค้าฯ จำนวน 200,000 บาท และบุตรชายร่วมบริจาคด้วย จำนวน 100,000 บาท และในวันที่จัดงานนั้นได้ร่วมบริจาคเงินในนามของสมาคมพระเครื่องที่เป็นประธานสมาคมสมัยนั้น จำนวน 200,000 บาท และหลายท่านสงสัยว่าทำไมเงินก้อนนี้ถึงหายไป แต่จริงๆ แล้วเงินก้อนนี้นั้นไม่ได้หายไป และทางคณะกรรมการหอการค้าฯ ทุกท่านได้ทราบโดยทั่วกันแล้ว”

“เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ทำให้ธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบอย่างมาก และผู้บริจาคบางรายไม่สามารถบริจาคเป็นเงินสดได้หรือมีบางรายยกเลิกไปด้วยก็มี ดังนั้น จึงขอบริจาคเป็นห้องประชุมหรือห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมในมูลค่าตามยอดที่บริจาคมาจำนวน 500,000 บาท และทางหอการค้าฯ ก็ได้เข้าใช้บริการห้องประชุมนั้นๆ แล้ว”

“โดยเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้มีการสื่อออกไปทำให้เกิดการเข้าใจผิดกันคลาดเคลื่อนเกิดขึ้น แต่ความจริงแล้วนั้นการทำงานทั้งหมดเป็นไปอย่างเที่ยงธรรม ไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น และสุดท้ายขอขอบคุณท่านผู้ใหญ่ทุกท่านที่ช่วยสร้างความสมานฉันท์นี้ให้เกิดความเข้าใจกันและเดินหน้าช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับหอการค้าฯต่อไป” นายชัชวาล กล่าว

นายสุวัฒน์ จึงวิวัฒนาภรณ์ ที่ปรึกษาอาวุโสหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “ในเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นทุกฝ่ายต่างปรับความเข้าใจกันในวันนี้แล้วนั้นก็รู้สึกดีใจที่ได้เป็นการสร้างความสมานฉันท์ให้กับหอการค้าฯ หลังจากที่เข้าใจผิดกัน ซึ่งทุกท่านมีความตั้งใจและทุ่มเทให้กับหอการค้าฯ มาโดยตลอด และหวังว่าจากนี้ต่อไปจะเป็นการช่วยการสร้างความเข้มแข็งให้กับหอการค้าฯ ตลอดไป”