ซ้อมหนัก! เพื่อกลับมาอย่างยิ่งใหญ่! สงครามวีรกรรรมเลือดท่วมทุ่งสัมฤทธิ์! โชว์ละครเวทีเธียเตอร์ สุดอลังการแสงสีเสียง “ย่าฉันท่านชื่อโม” รีเทิร์น! ตอน “หลานกู…ชื่อบุญเหลือ” การแสดงกว่า 300 ชีวิตแบบสื่อผสมเสมือนจริง ชมฟรี! วันที่ 28-30 ตุลาคม 2565 ณ หอประชุมฯ มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล

“มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล” ร่วมทีมเซอร์รีฟ ผู้สร้างผลงานอันลือลั่น โชว์แสงสีเสียง “ย่าฉันท่านชื่อโม” ในงานฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี หรืองานย่าโม มาแล้วกว่า 11 ปี ครั้งนี้ย้ายสถานที่แสดงแห่งใหม่งานแสดงแสง สี เสียง “ย่าฉันท่านชื่อโม” ตอน “หลานกู ชื่อบุญเหลือ” ครั้งที่ 1 ปี 2565

ซึ่งการแสดงครั้งนี้ได้จัดขึ้นเนื่องในวันสถาปนา “คุณหญิงโม” เป็น “ท้าวสุรนารี” โดยมีนักแสดงกว่า 300 ชีวิต มาร่วมสร้างตำนานมหาสงครามปกป้องเมืองนครราชสีมา จากข้าศึก จุดกำเนิดวีรสตรีแห่งโคราชจนถึงทุกวันนี้ 

นายสนธยา อ่อนน่วม หรือ “หน่องเซอร์รีฟ” ผู้กำกับการแสดง “ย่าฉันท่านชื่อโม” เปิดเผยว่า “หลังจากเราได้แถลงข่าวไปแล้ว ตอนนี้ทีมนักแสดงทุกวันกว่า 300 ชีวิตได้มาร่วมซ้อมกันอย่างหนัก เพื่อให้การแสดงครั้งสำคัญ “ย่าฉันท่านชื่อโม” ตอน “หลานกู…ชื่อบุญเหลือ” ให้ออกมาเสมือนเหตุการณ์จริง ในสงความทุ่งสัมฤทธิ์ มากที่สุด”

“ที่เซอร์ไพรส์มากคือระดับผู้บริหาร 3 ห้างใหญ่เมืองโคราช “เดอะมอลล์-เซ็นทรัล-เทอร์มินอล21โคราช” อย่างคุณชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ ห้างเดอะมอลล์โคราช คุณสุริยา ตันเจริญ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช และคุณปพิชญา ณ นครพนม ผอ.เทอร์มินอล21โคราช ทั้ง 3 ท่านก็มาร่วมซ้อมและแสดงด้วย”

นายสนธยา กล่าวอีกว่า “การจัดในครั้งนี้เป็นการยกระดับการแสดงแสงสีเสียงเรื่อง “ย่าฉัน…ท่านชื่อโม” ในตอน “หลานกู…ชื่อบุญเหลือ” ให้มี มาตรฐานเป็นละครเวทีเธียเตอร์ ประกอบเทคนิคเอฟเฟคต่างๆให้ผู้มีโอกาสเข้าชมได้รับอรรถรส เข้าถึงกับเนื้อหาเรื่องราวได้มากกว่า ที่เคยจัดมา โดยเฉพาะวันที่ 30 ตุลาคม เพราะเป็นวันสำคัญที่ผู้คนน้อยมาก ที่ได้รับรู้ว่าเป็นวันสถาปนา “คุณหญิงโม” ขึ้นเป็น “ท้าวสุรนารี” เมื่อเกือบ 200 ปีก่อน”

“สำหรับชื่อตอนคำที่ใช้ว่า “หลานกู…ชื่อบุญเหลือ” เอามาเป็นชื่อตอน เนื่องมาจากตัวเองที่ได้ค้นคว้าหาข้อมูลในเรื่องราวของย่าโม ย่าบุญเหลือ ได้รับรู้อย่างลึกซึ้ง จึงมีความรู้สึกที่ค่อนข้างแย่มากๆ กับข่าวคราวเมื่อบี 63 โด่งดังไปทั่วประเทศ ที่มีรายการหนึ่งบิดเบือน กล่าวหาว่า “ย่าบุญเหลือ” เป็นภรรยาน้อยของ “พระยาปลัดทองคำ” ที่เป็นสามีของคุณย่าโม”

“แม้พี่น้องชาวโคราชจะมีการกดดันให้ทางรายการเข้ามากราบขอขมาท่าน ทั้งที่อนุสารีย์และหน้าอัฐิของคุณย่าโม ที่วัดศาลาลอย ตามสื่อต่างๆ ที่นำเสนอไปแล้วนั้น แต่ในคลิปของรายการดังกล่าว ยังไม่ยอมที่จะลบคลิปนี้ออกไป แม้ผู้หลัก ผู้ใหญ่หลายฝ่ายจะขอความร่วมมือ กดดันอย่างไร รายการดังกล่าวก็ยังดื้อแพ่งไม่ลบคลิปออก อาจเป็นเพราะ ปล่อยให้เป็นกระแส สร้างรายได้กับคลิปที่บิดเบือนต่อไป”

นายสนธยา กล่าวต่อว่า “ผมจึงอยากลุกขึ้นมาทำเท่าที่จะทำได้ กับการเสนอข้อเท็จจริง ในรูปแบบนอกตำรา และเหมือนกับให้ย่าโม ได้บอกคนพวกนั้นว่า “หลานกู…ชื่อบุญเหลือ” ตวาดดังๆให้พวกมันได้ยินและเพื่อให้ลูก หลานผู้ชม ได้รับรู้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แม้จะเริ่มในจุดเล็กๆ ตรงนี้ แต่ผมก็มั่นใจว่า ในอนาคตเรื่องราวนี้จะได้รับการถ่ายทอด จากปากต่อปาก รุ่นสู่รุ่น ว่าจังหวัดนครราชสีมาของเรา มีความเป็นมาที่น่าสนใจเพียงใด”

“โดยการแสดง “ย่าฉันท่านชื่อโม” ตอน “หลานกู ชื่อบุญเหลือ” ครั้งที่ 1 ปี 2565 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคม 2565 ณ หอประชุมวงษ์ชวลิตกุล มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล งานนี้ชมฟรี! ส่วนรายละเอียดวันแสดงจะแจ้งทางสื่อต่างๆให้ทราบต่อไป” นายสนธยา กล่าวทิ้งท้าย