“เลเจนด์ อารีนา” กลุ่มบริษัทพราว บลูพอร์ต หัวหิน ร่วมกับ “เทศบาลนครนครราชสีมา” และ “ศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน” จัดการแข่งขันกีฬามวยไทย และศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รายการ เลเจนด์ เอฟซี “คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน” ณ เวทีมวยชั่วคราว บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ในวันที่ 3 ก.ย.นี้ พร้อมเอาใจแฟนหมัดมวย ยิงสดให้รับชมถึงบ้านทางช่อง 8
วันที่ 26 ส.ค.65 ที่ศาลาทรงไทย ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีแถลงข่าวการแข่งขันกีฬามวยไทย และศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รายการ เลเจนด์ เอฟซี “คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน” โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาการจัดการแข่งขันฯ เป็นประธานการแถลงข่าวครั้งนี้
ยังมี นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา, นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกุล ผู้อำนวยการศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์จังหวัดนครราชสีมา, “วิว” เยาวภา บุรพลชัย อดีตนักเทควันโดเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ 2004 ในฐานะโปรโมเตอร์ และ น.ส.วจี กลมเกลี้ยง ผู้บริหารศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน ในฐานะเจ้าของรายการ เลเจนด์ ไฟท์ติ้ง แชมเปี้ยนชิพส์ (เลเจนด์ เอฟซี) ร่วมด้วย
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาการจัดการแข่งขันฯ เปิดเผยว่า “หลังจากประสบความสำเร็จในการจัดการแข่งขัน เลเจนด์ เอฟซี ที่บริเวณลาน เดอะ สแควร์ หน้าศูนย์การค้า บลูพอร์ต หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยจัดขึ้นทั้งหมด 3 ครั้ง ปรากฏว่า ได้รับความสนใจอย่างมาก ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวคึกคักขึ้น ได้รับการเรียกร้องจากแฟนมวยให้ไปจัดตามจังหวัดต่างๆ จึงมาเริ่มต้นที่ จ.นครราชสีมา เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.นครราชสีมา โดยกำหนดจัดการแข่งขันเป็นสนามที่ 4 ในศึก เลเจนด์ เอฟซี “คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน” ณ เวทีมวยชั่วคราว ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ในวันเสาร์ที่ 3 ก.ย. 2565”
“การแข่งขันครั้งนี้ ยังคงมนต์เสน่ห์ของศึกเลเจนด์ เอฟซี คือการนำ 2 ศิลปะการต่อสู้ระดับโลก มวยไทย และ เอ็มเอ็มเอ มาอยู่ในรายการเดียวกันและจัดด้วยมาตรฐานระดับโลก เป็นการแข่งขันระหว่างนักมวยชาวโคราชกับชาวต่างชาติ นอกจากจะได้ชมฝีมือของนักกีฬามวยไทยและเอ็มเอ็มเอระดับแถวหน้าแล้ว ยังมีความพิเศษคือการแข่งขันมวยไทยคาดเชือกหรือมวยโบราณ โดยลูกหลานชาวโคราช จะพบกับนักกีฬาจากประเทศอิหร่าน รวมทั้งมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันให้รับชมได้ถึงบ้าน ทางยูทูปและเฟสบุ๊ค ซึ่งเริ่มเวลา 17.30 น. ก่อนที่ในเวลา 19.00 น. จะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ในคู่ที่เหลือทั้งหมด
“เราต้องการส่งเสริมศิลปะการต่อสู้ โดยเฉพาะมวยไทย เพื่อผลักดันให้ เลเจนด์ เอฟซี เป็น ซอฟท์ พาวเวอร์ ของประเทศ ดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก และมุ่งหวังให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของกีฬาศิลปะการต่อสู้แห่งหนึ่งของโลกต่อไป สำหรับผู้ชนะ จะได้รับเหรียญรางวัลขนาด 6 นิ้ว ด้านหน้าเป็นรูป พระเทพวิทยาคม (คูณ ปริสุทฺโธ) หรือหลวงพ่อคูณ ด้านหลังเป็นประตูชุมพล ซึ่งได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกจากวัดบ้านไร่ อ. ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ถือเป็นไฮไลท์ของ เลเจนด์ เอฟซี และยังเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่ได้รับด้วย” นายสุวัจน์ กล่าว
“วิว” เยาวภา บุรพลชัย โปรโมเตอร์การจัดการแข่งขัน กล่าวว่า “ศึกเลเจนด์ เอฟซี ครั้งนี้มีจำนวน 9 คู่ โดยคู่เอกของมวยไทยเป็นการแข่งขันคู่ที่ 5 ระหว่าง พญาหงส์ อโยธยาไฟท์ยิม (จันทกานต์ มโนบาล) ดีกรีแชมป์ เค-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ หญิงคนแรกของประเทศไทย จะพบกับ ลูกหมี PK เวียงจันทน์ นักมวยไทยสาวจากประเทศลาว ดีกรีนักกีฬาทีมชาติ ในรุ่น 47 กก. หญิง จึงขอเชิญชวนแฟนกีฬามวยไทยและเอ็มเอ็มเอมาร่วมชมการแข่งขัน ซึ่งเชื่อว่าจะสนุกทุกคู่ และสามารถรับชมผ่านทางเฟสบุ๊คชื่อ Legend Fighting Championships Thailand รวมทั้งทางยูทูปช่อง Legend Fighting Championship เริ่ม 17.30 น. และทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 8 เริ่ม 19.00 น.”
“อีกหนึ่งความพิเศษของเลเจนด์ เอฟซี ในครั้งนี้คือ นักกีฬาไทยทั้ง 9 คน ที่แข่งขันมวยไทยและเอ็มเอ็มเอ มีเชื้อสายเป็นลูกหลานชาวโคราชทั้งหมด ส่วน พญาหงส์ ก็เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา ในฐานะโปรโมเตอร์คาดหวังว่าการจัดการแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนในโคราชให้หันมาสนใจในการเล่นกีฬาต่อสู้ด้วย” โปรโมเตอร์วิว กล่าว
สำหรับโปรแกรมการแข่งขัน วันที่ 3 ก.ย. 2565 คู่ที่ 1-4 เป็นการแข่งขันมวยไทยคาดเชือก โดยคู่แรก รุ่น 74 กก. ชาย เพชรทวีชัย จ.ชัยวัฒน์ พบ ฮาเหม็ด โซไลมานี (อิหร่าน), รุ่น 55 กก. หญิง ยิ้มสยาม ส.ส.โต ร.ร.กีฬาโคราช พบ มาร์จัน อับบาซี (อิหร่าน), รุ่น 65 กก. ชาย ฟ้าลิขิต เดอะเลเจ้นด์อารีน่า พบ อาลีอัสก้า แฟมมิลี่มวยไทยยิม (อิหร่าน) และรุ่น 75 กก. ชาย เด่นพนม ส.ส.โต ร.ร.กีฬาโคราช พบ โมฮัมหมัด คาริมิชาร์ก (อิหร่าน)
คู่ที่ 5 เป็นคู่เอกของมวยไทย ในรุ่น 47 กก. หญิง พญาหงส์ อโยธยาไฟท์ยิม (จันทกานต์ มโนบาล) พบ ลูกหมี PK เวียงจันทน์ ส่วนที่เหลือจะเป็นศึกเอ็มเอ็มเอ โดยคู่ที่ 6 รุ่น 61.2 กก. ชาย จักรพันธ์ สมปักษ์ พบ วิลเลียม กูร์กุย (ฝรั่งเศส) คู่ที่ 7 รุ่น 47.8 กก. หญิง พัชริดา บัวอ่อน พบ ดาวมะลุลี จันทร์ติรัตติ์ (ลาว) คู่ที่ 8 รุ่น 61.2 กก. ปราชญ์ บัวภา พบ เรนาร์ กูร์กุย (ฝรั่งเศส) และคู่ที่ 9 รุ่น 65.8 กก. ธนวัฒน์ รัศมิ์ชินฤทธิ์ พบ ไบรอัน เฮตเตียราชชิลาเก (ศรีลังกา)