“การรถไฟฯ” ชี้แจงหลังทัวร์ลง โซเชียลแห่แชร์ภาพน้ำท่วมอุโมงค์ลอดทางรถไฟโคราช เก๋งจมมิดที่สถานีชุมทางบัวใหญ่-หนองบัวลาย ยันเป็นเพราะฝนตกหนักกว่าปกติเป็นเหตุสุดวิสัย โต้เครื่องสูบน้ำไม่ชำรุดสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามแก้ปัญหาสถานการณ์โดยทันที เร่งสูบระบายน้ำออกตลอดทั้งคืน

“การรถไฟแห่งประเทศไทย” แจงเหตุน้ำท่วมขังภายในอุโมงค์ลอดทางรถไฟ สถานีชุมทางบัวใหญ่-หนองบัวลาย โคราช เป็นเหตุสุดวิสัยเหตุฝนตกหนักมากกว่าปกติและปริมาณน้ำฝนสะสมสูง ต้องสูบน้ำตลอดทั้งคืน โต้ระบบระบายน้ำและเครื่องสูบน้ำทำงานได้เป็นปกติไม่ชำรุดตามที่เป็นข่าว รวมทั้งป้ายแจ้งเตือนระดับน้ำในอุโมงค์สามารถมองเห็นได้ชัดเจน พร้อมเพิ่มมาตรการความปลอดภัย สั่งตรวจสอบ 60 อุโมงค์ทั่วประเทศ

ล่าสุด! เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 65 นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงกรณีเกิดเหตุน้ำท่วมขังภายในอุโมงค์ลอดทางรถไฟ บริเวณ กม. 347/14 ระหว่างสถานีชุมทางบัวใหญ่- หนองบัวลาย ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ช่วงคืนวันที่ 10 ก.ค.2565 ที่ผ่านมาว่า

“หลังจากการรถไฟฯ ได้รับรายงานแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามแก้ปัญหาสถานการณ์โดยทันที”

“ทั้งนี้ ได้รับแจ้งสาเหตุเนื่องจากในคืนดังกล่าว เป็นช่วงที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้พัดผ่าน ทำให้มีฝนตกหนักเป็นระยะเวลานานตลอดทั้งคืน จนทำให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมเป็นจำนวนมากเกินกว่าปกติ ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการระบายน้ำ รวมถึงเครื่องสูบน้ำยังคงสามารถทำงานใช้การได้ดี และเร่งสูบระบายน้ำออกตลอดทั้งคืน”

“แต่เนื่องจากในช่วงดังกล่าวมีปริมาณน้ำฝนซึ่งตกลงมาต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานและมีปริมาณมาก จึงต้องใช้ระยะเวลาในการสูบน้ำออกจากอุโมงค์ จนกระทั่งในช่วงเช้าของวันเดียวกัน เวลา 08.00 น. สามารถสูบน้ำออกจากอุโมงค์ได้ทั้งหมด และเปิดให้ใช้เส้นทางได้ตามปกติ”

“การรถไฟฯ ขอเรียนว่าเหตุดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัย อันเป็นผลมาจากในคืนดังกล่าวที่มีฝนตกหนักกว่าปกติ จึงทำให้เกิดปริมาณน้ำฝนสะสมเป็นจำนวนมากในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว โดยระบบระบายน้ำและเครื่องสูบน้ำภายในอุโมงค์ยังทำงานได้เป็นปกติ ไม่ได้เสียหายหรือชำรุดตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด รวมทั้งป้ายแจ้งเตือนระดับน้ำภายในอุโมงค์ ก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน”

นายเอกรัช กล่าวต่อว่า “อย่างไรก็ดี การรถไฟฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อแหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยผู้ว่าการรถไฟฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งบูรณาการทำงานเชิงรุกอย่างเต็มที่ เพื่อติดตามและเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัย เพื่อป้องกันไม่เกิดเหตุเช่นนี้อีก รวมถึงจะลงพื้นที่ตรวจสอบดูแลอุโมงค์ลอดทางรถไฟอื่นๆ ที่มีกว่าอีก 60 แห่งทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในช่วงเวลาฤดูฝนที่อาจเกิดฝนตกยาวนานและมีปริมาณที่มาก”

“ขณะเดียวกัน การรถไฟฯ ขอความร่วมมือให้ประชาชนผู้สัญจรเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะ บริเวณข้ามจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ หรืออุโมงค์ลอดทางรถไฟในช่วงที่เกิดฝนตกหนัก โดยให้สังเกตป้ายจราจร สัญญาณไฟเตือนต่างๆ รวมถึงป้ายแจ้งเตือนระดับน้ำภายในอุโมงค์ ซึ่งหากเห็นว่ามีระดับน้ำแจ้งเตือนถึงระดับสีแดง “ห้ามผ่าน” ควรหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางอื่น เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง” นายเอกรัช กล่าว

ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง หรือหากพบเห็นปัญหาในการให้บริการสามารถแจ้งได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร.1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ www.railway.co.th หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย