“หมอเจด”แนะผู้ปกครองนำลูกหลานมาฉีดวัคซีน “ไฟเซอร์เด็ก” อายุ 5-11 ปี ฝาสีส้ม ยันอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบโอกาสเกิดเท่ากับ 1 ในล้าน ฝากให้พ่อแม่ผู้ปกครองการเตรียมตัวก่อนพาลูกหลานมารับวัคซีน หากมีอาการไม่พึงประสงค์ เจ็บแน่นหน้าอก หรือเหนื่อยง่าย โรงพยาบาลมหาราชพร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
![](https://executivekorat.com/wp-content/uploads/2022/02/273174763_943296873022356_7095276159274682684_n-1024x683.jpg)
![](https://executivekorat.com/wp-content/uploads/2022/02/272908840_943158473036196_6670267079827371006_n-1024x683.jpg)
บรรยากาศที่ห้องฉีดวัคซีน ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาโคราช หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลของ รพ.มหาราชนครราชสีมา มีการฉีดวัคซีน “ไฟเซอร์เด็ก” ให้กับนักเรียน จากโรงเรียนตำบลต่างๆ ในเขต อ.เมืองนครราชสีมา โดยมีครู อาจารย์ และผู้ปกครองพากันนำบุตรหลาน ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนชั้น ป.6 อายุ 11 ปี ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ฝาส้ม 600 คน นอกจากนี้ในช่วงบ่ายยังดำเนินการฉีดวัคซีนกลุ่ม 608 พี่น้องประชาชนทั่วไป สตรีตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ กลุ่มที่มีโรคประจำตัว กลุ่มเสี่ยงเป็นวัคซีนไฟเซอร์
![](https://executivekorat.com/wp-content/uploads/2022/02/273052838_943157746369602_3713779180421954782_n-1024x683.jpg)
![](https://executivekorat.com/wp-content/uploads/2022/02/273276489_943158793036164_2926058330012990802_n-1024x683.jpg)
![](https://executivekorat.com/wp-content/uploads/2022/02/273011215_943158396369537_9168592120289340962_n-1024x683.jpg)
นพ.เจษฏฺ บุญยวงษ์วิโรจน์ ผู้ช่วย ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา หัวหน้าศูนย์วัคซีน จ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ช่วงสัปดาห์นี้ตั้งเป้าฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียนของ จ.นครราชสีมา โดยเราเริ่มฉีดชั้น ป.6 อายุ 11 ปีในจำนวน 25 โรงเรียนในเขต อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งจะใช้เวลาฉีดหลายวัน ซึ่งจะเพิ่มเป็นระยะๆในเวลาต่อไป”
![](https://executivekorat.com/wp-content/uploads/2022/02/273424990_669566124245882_8809692418336434104_n-2-1024x678.jpg)
“โดยเป็นวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งมีด้วยกัน 2 ฝา คือ ฝาม่วง ฉีดตั้งแต่ อายุ 12 ปีขึ้นไปรวมไปถึงประชาชนทั่วไป ส่วนฝาส้ม ซึ่งมีปริมาณความเข้มข้นอยู่ที่ 1 ใน 3 ของวัคซีนฝาม่วง จะใช้ฉีดเฉพาะเด็กอายุ 5-11 ปี ส่วนอาการไม่พึงประสงค์หรือผลข้างเคียงที่จะทำให้ซีเรียสหรือว่ารุนแรงเรื่องของกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบโอกาสเกิดเท่ากับ 1 ในล้าน คือ เราฉีดไปแล้ว 8 ล้านกว่าคนเจอประมาณ 8 เคสเท่านั้น”
![](https://executivekorat.com/wp-content/uploads/2022/02/273200202_943158833036160_8501366552756263533_n-1024x683.jpg)
![](https://executivekorat.com/wp-content/uploads/2022/02/273119321_943158209702889_7771331613324952892_n-1024x683.jpg)
“ส่วนผลข้างเคียง เช่น ไข้ ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว ในเด็กอายุ 5-11 ปีจะเกิดได้น้อยเหมือนกัน เนื่องจากใช้ความเข้มข้นเท่ากับ 1 ใน 3 ของผู้ใหญ่ สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้พวกเราเดินหน้าต่อไปได้ในอนาคตคงต้องทำในหลายเรื่อง 1.วัคซีนเป็นเรื่องที่สำคัญ , 2.การดูแลป้องกันตัวเองที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นสวมใส่แมสก์ หรือเว้นระยะห่างกันเองที่บ้าน , 3.สถานศึกษาโรงเรียนเราเชื่อว่าโรงเรียนทุกที่จะทำการดูแลบรรดาลูกหลานของเราได้ดีในเรื่องการจัดการสถานที่ การจัดการเรื่องกิจกรรมต่างๆนานา และ 4.สุดท้ายการที่พวกเราชินกับคำว่า ATK เป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้เราใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติได้”
![](https://executivekorat.com/wp-content/uploads/2022/02/273216073_943296843022359_7123941312857915427_n-1024x683.jpg)
![](https://executivekorat.com/wp-content/uploads/2022/02/273274442_943159143036129_8383790351258462557_n-1024x683.jpg)
นพ.เจษฏ์ กล่าวอีกว่า “ฝากไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองการเตรียมตัวก่อนพาลูกหลานมารับวัคซีน เพราะวัคซีนนี้ถือว่าเซฟมากในประเทศไทยและในต่างประเทศ 1.ไม่ต้องกังวลขอให้น้องๆพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนมา , 2,หลังฉีดวัคซีนเสร็จเราชินกับจะต้องดื่มน้ำ ซึ่งจุดฉีดวัคซีนมีน้ำดื่มบริการอยู่แล้ว ซึ่งต้องเรียนว่าหลังฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่สำคัญในการดูแลตัวเอง โดยพยายามให้น้องๆงดออกกำลังกาย 7 วัน เนื่องจากข้อมูลที่เรากังวลและกลัวที่สุดก็คือ เรื่องของกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ฉะนั้นควรงดกิจกรรมที่จะทำให้หัวใจเต้นเร็ว เช่น การออกกำลังกาย, การไปดูหนังอะไรที่มันตื่นเต้น”
![](https://executivekorat.com/wp-content/uploads/2022/02/273046327_943157946369582_6388269276536451864_n-1024x683.jpg)
![](https://executivekorat.com/wp-content/uploads/2022/02/273328671_943158199702890_9138717538743324909_n-1024x683.jpg)
![](https://executivekorat.com/wp-content/uploads/2022/02/273213269_943158829702827_4251791622711415401_n-1024x683.jpg)
![](https://executivekorat.com/wp-content/uploads/2022/02/273436973_669570530912108_4814731461102142542_n-2-1024x683.jpg)
“อันนี้จะทำให้ลูกหลานปลอดภัยจากการฉีดวัคซีนและลดโอกาสเกิดการแพ้วัคซีน การสังเกตอาการในช่วง 24 ชั่วโมงแรกเป็นเรื่องของไข้ ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัวอันนี้ถือเป็นปรกติ และสามารถทานยาพาราฯได้ หลังจากนั้นก็เป็นปรกติไม่ต้องสังเกตอะไรมากมายเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามถ้าหากมีอาการไม่พึงประสงค์ เช่น เจ็บแน่นหน้าอก หรือเหนื่อยง่าย ควรที่จะพาน้องไปที่โรงพยาบาล หรือโทรสายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้มารับบริการดูแล” นพ.เจษฏ์ กล่าว