“ผู้ว่าโคราช-วัดพระนารายณ์” ทำพิธีทุบตึกหน้าวัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร เพิ่มอีก 4 คูหา หลังได้รื้อถอนอาคาร 8 ห้องริมถนนประจักษ์ข้างศาลหลักเมืองเสร็จแล้ว เพื่อเคลียร์ทางเข้า พระบรมราชานุสาวรีย์“สมเด็จพระนารายณ์มหาราช” เนรมิตแลนด์มาร์คใหม่คู่เมืองย่าโม งบ 10 ล้านบาท เพื่อเชื่อมต่อ “ศาลหลักเมือง” ที่ปรับปรุงใหม่เช่นกัน พร้อมเตรียมจัดงาน “สถาปนาเมืองนครราชสีมา” เป็นงานประจำปีคู่ “งานย่าโม”

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 65 ที่วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดย พระสีหราชสมาจารมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ประธานฝ่ายสงฆ์ และนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจ.นครราชสีมา ประธานฝ่ายฆราวาส ได้ทำพิธีรื้อถอนอาคารเดิมริมถนนประจักษ์ข้าง “ศาลหลักเมือง” เพิ่มอีก 4 คูหา หลังจากได้รื้อไปแล้ว 8 คูหาเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว เพื่อเตรียมจัดสร้าง “พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช” จังหวัดนครราชสีมา

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการ จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า “อาคารพาณิชย์หน้าทางเข้าวัดพระนารายณ์ฯ เมื่อต้นปี 2564 เราได้ขอคืนแล้ว 8 ห้องฝั่งถนนประจักษ์ ก็ได้เริ่มทำการรื้อทิ้งทันทีเพราะในทางทางวิศวกรรมตัวอาคารหมดสภาพแล้วมีอายุ 40 กว่าปี และอันตราย ไม่สามารถจะอาศัยอยู่ได้แล้วมีสภาพที่เก่า ผุ บางส่วนไม่ควรใช้งานแล้ว ถือเป็นการคืนพื้นที่ให้ชาวโคราชได้มีพื้นที่ส่วนรวมกลางเมืองแห่งใหม่ร่วมกัน”

“ขณะนี้ดีไซน์แบบสร้าง “พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช” เสร็จแล้วถ้าชาวโคราชได้เห็นแบบจะภูมิใจ ภูมิทัศน์ตรงนี้จะเชื่อมศาลหลักเมือง เป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งคู่ลานย่าโมจะเป็นแหล่งดึงนักท่องเที่ยวประชาชนที่รักในงานศิลปวัฒนธรรม รักในประวัติศาสตร์ เข้ามาในตัวเมืองนครราชสีมา เพื่อมาชมที่วัดพระนารายณ์แห่งนี้ พร้อมเริ่มสร้างปี 2565 ส่วนรูปหล่อองค์พระนารายณ์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชมงคลอีสานเป็นผู้ออกแบบ และต้นแบบได้รับอนุมัติจากกรมศิลป์แล้ว”

“โดยจะสร้างแยกเป็น 2 ส่วนคือโรงหล่อองค์“สมเด็จพระนารายณ์ฯ” ก็จะทำไป ส่วนที่วัดพระนารายณ์ฯ ก็จะปรับภูมิทัศน์สร้างฐาน ใช้งบทั้งหมดกว่า 10 ล้านบาท ส่วน “ศาลหลักเมือง” มีแนวคิดที่จะยกสูงขึ้น อีกประมาณ 3 เมตร เพื่อให้ดูเด่นสง่า และขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้นเพื่อเชื่อมไปยัง “พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช” เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์คประวัติศาสตร์แห่งใหม่ต่อจากอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี”

“หลังจากสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ พระนารายณ์ เสร็จแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา จ.นครราชสีมา จะมีแต่งาน “ฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี หรืองานย่าโม” ที่จัดช่วงวันที่ 23 มี.ค.-3 เม.ย.ทุกปี แต่ต่อไปจะมีงานประจำปีของจังหวัดอีก 1 งานคือ “สถาปนาเมืองนครราชสีมา” สร้างสมัยพระนารายณ์ฯ ซึ่งโคราชยังไม่เคยจัด ตรงกับวันไหนนั้นได้ให้ทางวัฒนธรรมจังหวัดฯไปค้นหาประวัติว่าเป็นวันไหน และครบรอบอายุเท่าไร” ผู้ว่าฯวิเชียร กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ สำหรับประวัติความเป็นมาของ “วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร” เป็นวัดที่ตั้งอยู่กลางใจเมืองติดกับ “ศาลหลักเมือง” สมัยโบราณเรียกว่า “วัดกลาง” หรือ “วัดกลางนครโคราช วรวิหาร” โดยถือเอาวัดพระนารายณ์ฯ เป็นศูนย์กลาง รายล้อมด้วยวัดอื่นๆ ตามที่ตั้งอยู่ทิศต่างๆ ตามชื่อทิศ เช่น วัดบูรพ์ (บูรพา) วัดอิสาน วัดพายัพ วัดบึง และวัดสระแก้ว รวม 6 วัดที่ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมืองโคราช

“วัดกลางนคร” จัดเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือ ในสมัยก่อนมีพิธีที่ข้าราชการทุกแผนกจะต้องสาบานตนว่าจะต้องรับราชการสนองพระเดชพระคุณด้วยความจงรักภักดี ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต พิธีนี้เรียกว่า “พิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา”  ทางราชการได้ใช้วัดพระนารายณ์มหาราชฯ เป็นสถานที่ในการประกอบพิธี รวมทั้งให้เป็นสถานที่ทำพิธีสวดเสกน้ำพระพุทธมนต์ถวายในงานพระราชพิธีเสวยราชสมบัติ

ปัจจุบันวัดพระนารายณ์ฯ ยังมีศิลปะวัตถุพร้อมทั้งแบบสถาปัตยกรรมของสมัยกรุงศรีอยุธยาและปูชนียสถาน ประกอบด้วย พระอุโบสถที่ตั้งอยู่เกาะกลางสระบัวทิศตะวันออกของวัด พระวิหารหลวงและเทวรูปพระนารายณ์สี่กร จำหลักด้วยหินทรายฝีมือขอมโบราณอันเป็นสัญลักษณ์แสดงพระนามผู้สร้างวัด