ฮือฮา! พบหมู่บ้านชื่อแปลกอยู่อำเภอโชคชัย โคราช ประวัติสุดเฮี้ยน “บ้านหนองผีหลอก” คนในพื้นที่เล่าตำนานจากบรรพบุรุษ สุดระทึกเป็นตำนานที่เฮี้ยนมาก คนเฒ่าคนแก่เล่าว่าทั้งผีดุ วันดีคืนดีก็จะได้ยินเสียงปี่ เสียงกลอง เสียงดนตรีไทย เมื่อเดินไปดูก็ไม่มีอะไร และผู้คนก็มักจะถูกผีหลอกกลางวันแสกๆ แต่ปัจจุบันกลายเป็นทุ่งนาไปแล้ว
เรื่องราวลี้ลับชวนสยองขวัญสั่นประสาท เกี่ยวกับความเชื่อและสิ่งที่มองไม่เห็น มักวนเวียนอยู่ในเรื่องเล่าขานต่อๆ กันมา อย่างเช่น “บ้านหนองผีหลอก” เป็นคุ้มหนึ่งของ “บ้านโนนแดง” หมู่16 ตำบล พลับพลา อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เบื้องต้นทราบว่าหมู่บ้านดังกล่าวอยู่ห่างจากถนนราชสีมา – โชคชัยประมาณ 5 กิโลเมตร
เมื่อเดินทางเข้าไปได้ประมาณ 4 กิโลเมตร พบป้ายชื่อ “บ้านหนองผีหลอก” ตั้งอย่างเป็นทางการอยู่ริมทางอย่างชัดเจน แต่มีสภาพเก่าคาดว่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 30-40 ปี สอบถามเบื้องต้นทราบว่า หมู่บ้านดังกล่าวมีอยู่จริง ห่างจากจุดที่ตั้งป้ายประมาณกิโลเศษๆ หลังจากเดินทางไปตามจุดหมายพบป้ายทางเข้าหมู่บ้านหนองผีหลอก เป็นป้ายบ้านโนนแดง ม. 16 ต.พลับพลา อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เมื่อขับรถเข้าไปได้ประมาณ 1 กิโลเมตร พบมีหมู่บ้านเป็นชุมชนขนาดเล็กประมาณ 50 หลังคาเรือน สอบถามชาวบ้านยืนยันว่าหมู่บ้านนี้แหละคือบ้านหนองผีหลอก
แต่จากการสอบถาม นายเสริม จอมกระโทก อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านดังกล่าว บอกว่า “บ้านหนองผีหลอก ที่ชาวบ้านพูดถือก็คือ หมู่บ้านนี้ ส่วนหนองผีหลอกที่ว่า ก็อยู่ห่างจากหมู่บ้านไปไม่ไกล ปัจจุบันมีคนมาซื้อปรับปรุงเป็นโครงการโคกหนองนา พร้อมสร้างบ้านอยู่ไม่เหลือเค้าหนองผีหลอกแล้ว พร้อมกับพาเดินออกไปท้ายหมู่บ้านชี้ให้ดูหนองผีหลอกในตำนานซึ่งปัจจุบันเป็นทุ่งนาข้าวและมีบ้านอยู่ด้วย 1 หลัง”
“ส่วนบ้านหนองผีหลอกที่ว่า แท้จริงแล้วตามทะเบียนราษฎรอยู่ในเขตของบ้านโนนแดง ม.16 มีตนเป็นผู้ใหญ่บ้าน โดยชื่อบ้านโนนแดงก็ตั้งมานานกว่า 30 ปี แล้ว แต่มีเขตพื้นที่ครอบคลุมหลายคุ้มอยู่กันเป็นย่อมๆ เช่น คุ้มโนนแดง คุ้มหนองขี้แต้ และคุ้มหนองผีหลอก แต่คนในพื้นที่เรียนกันติดปากว่าบ้านหนองผีหลอก ส่วนประวัติความเป็นมาทราบเพียงมีเรื่องเล่าต่อกันมาว่ามีผีหลอกบ่อยๆ ถ้าจะให้รู้จริงต้องไปถามคนที่มาอยู่ก่อนส่วนตนไม่เคยโดนผีหลอกเลย”
ต่อมาได้สอบถาม นายธีรพล ขวัญมล อายุ 58 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า “จริงแล้วบริเวณดังกล่าวเป็นนาในพื้นที่ลุ่มมีน้ำขังเป็นแอ่งคล้ายๆ หนองขนาดเล็ก โดยจากการสอบถามคนเฒ่าคนแก่เล่าว่าจุดดังกล่าวผีดุมาก วันดีคืนดีก็จะได้ยินเสียงปี่ เสียงกลอง เสียงดนตรีไทย เมื่อเดินไปดูก็ไม่มีอะไร ซึ่งจากที่คนเฒ่าคนแก่เล่าต่อกันมาว่าได้ยินเกือบทุกวันพระ จึงเรียนกันมาว่า “หนองผีหลอก” มาจนถึงทุกวันนี้”
“ตนยืนยันว่าคนเฒ่าคนแก่เล่ามาว่าตรงนั้นมีผีหลอกจริง สมัยก่อนคนยังอยู่ไม่มา ทางก็เป็นดินทรายเป็นทางเกวียน สมัยก่อนมีคนถูกหลอกทั้งกลางวันกลางคืน จนมีชื่อเรียกติดปากมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนป้ายบ้านหนองผีหลอกนั้นคาดว่าทางหน่วยงานที่สร้างถนนจะติดผิดจุดห่างจากหมู่บ้านเกือบ 2 กิโลเมตร แต่เข้ามาติดป้ายบ้านหนองผีหลอกได้อย่างไรไม่รู้เพราะชื่อหมู่บ้านในทะเบียนราษฎรไม่มี แต่ก็มีป้ายให้เห็นจนถึงปัจจุบัน”