“ชัชวาล วงศ์จร” อดีตปธ.หอการค้าโคราช และประธานหอการค้าอีสานตอนล่าง ชี้ทางออกสู้โรคระบาดโควิด ให้รัฐเร่งเยียวยา มองธุรกิจที่จะเดินได้เป็นเพียงออนไลน์ส่วนภาคอื่นไม่ชัดเจน ขอให้รัฐช่วยออกมาตรการช่วยธุรกิจต้องงดจ่ายดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ปี เพื่อให้สามารถเดินต่อไปได้ ขอทุกฝ่ายต้องร่วมด้วยช่วยกันดีกว่าเอาเวลาไปทะเลาะกัน ต้องรีบฉีดวัคซีนอย่าไปสนใจยี่ห้อ

นายชัชวาล วงศ์จร ประธานหอการค้ากลุ่มอีสานตอนล่าง 1 (นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์) และอดีตประธานหอการค้า จ.นครราชสีมา 2 สมัย กล่าวในการเสวนาข้อเสนอป้องกันควบคุมโควิด 19 และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพื้นที่ภาคอีสานว่า

“ขณะนี้สถานการณ์ โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมาค่อนข้างรุนแรง น่าห่วงเพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ดูรวมๆแล้วทางโคราชเองก็ทำงานได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะภาคเอกชนได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐเป็นอย่างดี ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาโดยที่เราไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดที่ตรงไหน จนโคราชเป็นสีแดงเข้มจังหวัดเดียวในภาคอีสาน”

“หอการค้า 20 จังหวัดอีสาน เราทำงานเป็นทีมและดูแลจังหวัดที่ตัวเองรับผิดชอบ ตอนนี้ทั้งผู้ว่าฯและสสจ.ทำงานกันอย่างเต็มที่ แต่ที่น่าห่วงคือบุคลากรทางการแพทย์ที่ตอนนี้เหนื่อยล้ามาก ภาคเอกชนพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์”

นายชัชวาลกล่าวอีกว่า “ในส่วนของความช่วยเหลือ เราก็มีหลายอย่างที่ต้องขอจากทางรัฐบาลอย่างเต็มที่มากขึ้น เพราะทุกคนเดือดร้อน เช่นในส่วนของการที่รัฐขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่บ้าน จะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ จึงอยากจะให้รัฐช่วยเยียวยาส่วนนี้ ส่วนของผู้ประกอบการมีหลายมาตรการด้วยกัน ต้องดูความต้องการของผู้ประกอบการเป็นหลัก เรื่องทั่วๆไปตอนนี้คือ เห็นด้วยที่ทุกฝ่ายต้องร่วมด้วยช่วยกันดีกว่าเอาเวลาไปทะเลาะกัน”

“เรื่องสำคัญคือเรื่องวัคซีน ตัวผมเองก็เป็น 1 ใน 14 คนที่ไปภูเก็ตเราทุกคนแข็งแรงดี แปลว่าวัคซีนทำงานได้เป็นอย่างดี ไม่อยากให้ทุกคนไปสนใจที่ยี่ห้อของวัคซีนมากเกินไป ตอนนี้อยากให้ฉีดไปก่อนจะช่วยเราได้มากกว่า”

 นายชัชวาล กล่าวต่อว่า “ขณะนี้ทุกฝ่ายมุ่งเน้นที่จะเดินไปด้วยกัน นครราชสีมามีนโยบายที่ดีมาก มุ่งเน้นในเรื่องของโควิดเป็นอันดับแรก เนื่องจากสถานการณ์โควิด ค่อนข้างรุนแรง ในส่วนของหอการค้าเองก็ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี และทำงานอย่างหนัก เพิ่มเติมในส่วนที่รัฐขาด เช่น อาหาร อุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องให้ความช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ให้ได้มากที่สุด”

“เราได้รับวัคซีนซิโนฟาร์มเข้ามา 50,000 โดส ซึ่งทางนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ได้อนุมัติเรียบร้อย กำลังเริ่มจดรายชื่อ และคงจะได้ฉีดในเร็วๆนี้ เทศบาลฯจะช่วยในเรื่องของแอลกอฮอล์ เจลล้างมือเป็นจำนวนมาก เอกชนในส่วนต่างๆก็ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่”

 “โคราชเป็นจังหวัดใหญ่ จึงได้รับผลกระทบมาก ธุรกิจรายกลาง- ใหญ่ ค่อนข้างมาก ถ้าจะมองหาว่าตอนนี้ธุรกิจอะไรที่เป็นไปด้วยดี ตนมองว่ามันไม่ชัดเจน ที่เห็นคือจะเป็นออนไลน์ แต่ในโคราชเองก็ไม่ได้มีออนไลน์เยอะมาก โดยเฉพาะตอนนี้ที่เราเป็นจังหวัดสีแดงเข้มทำให้ภาคเศรษฐกิจเราขยับตัวไม่ได้”

นายชัชวาล กล่าวอีกว่า “ผมอยากจะขอให้ช่วยเรื่องหยุดการจ่ายดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ปี  เป็นเรื่องสำคัญที่สุด โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมได้ผลกระทบมาประมาณปีครึ่ง รายได้ไม่มี มีแต่รายจ่าย ขอให้ช่วยธุรกิจที่ยืนอยู่ได้ แล้วเราจะสามารถลงไปช่วยประชาชนชนและภาครัฐต่อได้เต็มที่”

“นักธุรกิจต้องมีการเปลี่ยนแปลง มีการคิดที่จะก้าวต่อไป ตนเองเป็นคนที่อยู่กับความเป็นจริง ทุกคนมาด้วยตัวเปล่า สิ่งหนึ่งที่มองคือมองในภาพบวกมากกว่า เอาปัญหาเข้ามาและแก้ไขออกไป เชื่อว่าตอนนี้คนไทยติดอยู่อย่างเดียว คือเราไม่สามัคคีกัน ประเทศไทยมีอะไรที่ดีกว่าหลายๆประเทศเยอะมาก ตรงนี้อยากจะให้ช่วยกันระดมความคิดเพื่อให้ผ่านพ้นไปได้”

“เรื่องเศรษฐกิจแน่นอนว่าเราต้องการ แต่ในระดับครอบครัว เราต้องช่วยกันประหยัดอดออม คิดว่าเราอยู่ได้ อย่าท้ออย่าถอยกับมัน เชื่อว่าตอนนี้ทุกคนมีความทุกข์เท่ากัน ถ้าเราย่อตัวเราเล็กลงและตั้งใจจะอยู่รอดไปได้ เราจะผ่านไปได้แน่นอน ระดับประชาชนยังมีดินสามารถปลูกกินได้ อยากให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจ อย่าทะเลาะกันและช่วยมองในสิ่งที่ดี โอกาสของประเทศไทยดีกว่าประเทศอื่น และคนไทยมีความสามารถ เชื่อว่าเราจะผ่านพ้นไปได้แน่นอน” นายชัชวาล กล่าว