“หมอโจ้”เภสัชกรจักริน เชิดฉาย เปิดใจครั้งแรก! หลังจบศึกเทศบาลโคราช ยันไม่ซื้อเสียงเด็ดขาด เพราะอยากทำการเมืองสีขาว เหตุประเทศมีปัญหาเรื่องคอร์รัปชั่น ถึงแพ้เลือกตั้งแต่ไม่เสียใจ แต่ถ้าชนะเป็นจุดเปลี่ยนทั้งประเทศ เผยมีพรรคใหญ่ทาบลงสส.เขต1 ประกาศชัดยังทำงานเพื่อประชาชนต่อไป โบกมือลาการเมืองท้องถิ่น

หลังจากการเลือกตั้ง “นายกเทศมนตรี และสท.” เทศบาลนครนครราชสีมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา “ประเสริฐ บุญชัยสุข” กลุ่มโคราชชาติพัฒนา หมายเลข 2 ได้คะแนนมาอันดับ 1 ได้ 23,550 คะแนน และสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมา (สท.) หมายเลข 7-12 คว้าชัยแบบยกทีมทั้ง 4 เขต ส่วนคะแนนอันดับ 2 “ฉัตร สุภัทรวณิชย์” กลุ่มคณะก้าวหน้า หมายเลข 4 ได้ 10,367 คะแนน, อันดับ 3 “หมอโจ้”เภสัชกรจักริน เชิดฉาย กลุ่มโคราชเพื่อโคราช หมายเลข 3 ได้ 7,260 คะแนน และอันดับ 4 “อัคคชา พรหมสูตร” กลุ่มโคราชมหานคร หมายเลข 1 ได้ 3,724 คะแนน

“หมอโจ”ยัน“อยากทำการเมืองสีขาว”

 “หมอโจ้”เภสัชกรจักริน เชิดฉาย อดีตประธานหอการค้า จ.นครราชสีมา 2 สมัย และประธานกลุ่มโคราชเพื่อโคราช ได้เปิดใจเป็นครั้งแรกหลังจากจบการเลือกตั้งเทศบาลโคราช เปิดเผยว่า “ผมตัดสินใจที่จะลงชิงนายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครราชสีมา ครั้งที่ผ่านมา เพราะผมต้องการทำการเมืองสีขาวจริงๆ และผมเป็นคนที่ต่อสู้กับเรื่องความถูกต้อง และเทศบาลโคราชควรจะทำอะไรได้มากว่านี้ ทุกคนที่ได้พูดคุยจะบอกว่า เราเสียโอกาสเมืองอยู่กับที่มานานทุกคนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง และมั่นใจว่าคนส่วนใหญ่คิดแบบเรา”

ประเทศมีปัญหาเรื่องคอร์รัปชั่น

            “ปัญหาของประเทศไทยที่ผ่านมา มีเรื่องคอร์รัปชั่นที่ต้นเหตุมาจากนักการเมือง และข้าราชการด้วย ถ้าการเมืองคุมดีๆข้าราชการก็โกงไม่ได้ ผมไม่ได้ว่าใครเฉพาะเจาะจง เพราะวันนี้มันเป็นวงจรมี ประชาชน-นักการเมือง และข้าราชการประจำ ซึ่งนักการเมืองจะแคร์ประชาชน และข้าราชการจะแคร์นักการเมือง ส่วนประชาชนก็จะอยู่เบื้องล่างของข้าราชการ”

ตั้งกฎเหล็กจะ“ไม่ซื้อเสียง”

“ถ้านักการเมืองบอกต้องไม่มีคอร์รัปชั่น ก็ต้องไม่ วันนี้ผมเป็นประธานต่อต้านคอรัปชั่นจ.นครราชสีมา ทุกวันนี้ผมรู้สึกล้าหลายคดีที่ผมส่งไปก็เงียบ แต่การที่ผมสู้ในแบบของผมคือการเมืองสีขาว ผมรู้ว่า มันยากมากมาตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งภรรยาผมอนุญาตให้เล่นการเมืองได้แต่มีข้อแม้ว่า ห้ามซื้อเสียง ซึ่งที่ผ่านมาหลายปีผมจะดูแลชุมชนดีมากแค่ไหน แต่สิ่งที่จะทำไม่ได้คือซื้อเสียง มีคนบอกว่าทำการเมืองสีขาวสู้ยาก แต่ผมมีทางเลือกทางเดียว”

แพ้เลือกตั้งแต่ไม่เสียใจชีวิตมีครบแล้ว

“ผลการเลือกตั้งเทศบาลโคราชที่ผ่านมา ผมไม่เคยรู้สึกเสียใจเลยที่แพ้ เราไม่ดีพอที่จะชนะอะไรบางอย่างและยังไม่ถึงการเปลี่ยนแปลง ผมเล่นการเมืองในเชิงอุดมคติ ไม่ได้ต้องการอะไรส่วนตัว เพราะครอบครัวมีชีวิตที่มากพอแล้ว จะเอาอะไรกับชีวิตนี้มีชื่อเสียงเกียรติยศ ประวัติทำมาเยอะแล้ว”

โครงการที่หาเสียงทำได้จริง

            “หมอโจ้” กล่าวอีกว่า “นโยบายของกลุ่มโคราชเพื่อโคราช เราจะทำ “ลานจอดรถใต้ดินสวนรัก” จอดได้ 300 คัน ทำ “สกายวอร์ค” หน้า 4 โรงเรียนมีที่จอดรถรอรับ-ส่งพร้อมรถรางโดยสาร Shuttle Bus ไว้รับส่งนักเรียน ทำคูเมืองใหม่เอา “ตลาดน้ำ ตลาดโอทอป” เข้าไปในคูเมืองเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ทำ “ตลาดนัด 4 มุมเมือง” ปรับปรุงคูเมือง ทั้งหมดมันกลั่นมาจากชีวิต และประสบการณ์สมัยเป็นประธานหอการค้าฯได้ไปดูงานต่างประเทศมา ร่วมวิศวกรและที่ปรึกษามาร่วมกันเขียนแบบโครงการมา ไม่ได้เขียนมาเฉยๆแต่ทำจริงไม่ได้ เรามองในจินตนาการที่เป็นไปได้และทำได้จริง”

ถ้าชนะเป็นจุดเปลี่ยนทั้งประเทศ

“สมมุติว่าถ้าผมชนะ ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวบุคคลแต่มันเป็นจุดเปลี่ยนเมืองโคราช จุดเปลี่ยนประเทศไทย เพราะคิดการดีมีโครงการดีๆ ไม่ใช้เงินซื้อเสียงชนะจะทำให้คนดีๆทั่วประเทศอยากทำการเมือง อยากเห็นบ้านเมืองสะอาด แต่ทุกวันนี้ทำให้คนดีๆในสังคมไม่กล้ามาเพราะมาแล้วเปื้อนโคลน คนที่ทำเชิงอุดมการณ์มันยากที่จะชนะ แต่ก็ยังเชื่อว่าเป็นไปได้”

พรรคใหญ่ทาบ-เลิกการเมืองท้องถิ่น

            “บางคนบอกว่าไม่ใช่เวลาของคุณ หลังเลือกตั้งก็ยังมีนักการเมืองระดับชาติจากพรรคใหญ่ระดับต้นๆของประเทศได้ติดต่อทาบทามมาหลายพรรค ให้มาลง สส.เขต1 แต่ยังไม่คิดที่จะเล่นการเมืองระดับชาติ เพราะรู้สึกเหนื่อยอยากใช้ชีวิตธรรมดาที่เหลือดีกว่า และอายุเกิน 60 ปีแล้ว คงไม่ลงการเมืองท้องถิ่นอีกแล้ว เราควรให้คนรุ่นใหม่ดีกว่า โลกวันนี้มันเปลี่ยนเร็ว แต่ผมยังมีไฟในการทำงานอยู่เสมอ เคยคิดว่าตอนนี้อยากทำโครงการอะไรที่เกี่ยวกับเยาวชนลูกหลานเรา สร้างคนรุ่นใหม่เพื่อสังคมที่ดีขึ้น”

ยังทำงานเพื่อประชาชนต่อไป

“สำหรับตัวผมก็จะขอทำงานให้เมืองโคราชต่อไป ในฐานะภาคประชาชน เพราะเราไม่มีเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง ฐานะทุกวันนี้เราไม่เดือดร้อนอะไร งานทางการกุศลเราไม่เคยหยุดทำ ช่วงโควิดระบาดทั้ง 3 ระลอก ยังร่วมบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาล มูลค่าหลายล้านบาท”

แจกข้าวกล่องปชช.เดือดร้อนโควิด

“เรามีร้านหมอยาพลาซ่า TODAY และร้าน “ถูกจัง” เปิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยราคาถูก และแจกข้าวกล่อง-น้ำดื่มฟรี! ให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ วันละประมาณ 200 ชุดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ค่าใช้จ่ายต่อเดือน 4-5 หมื่นบาท รวมเดือนกว่า 3,000 กว่าชุดแล้วที่แจกชาวบ้านซึ่งเขาจนจริงๆ” หมอโจ้ กล่าวทิ้งท้าย