“อนุทิน ชาญวีรกูล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยกทีมตวรจ 2 ห้างใหญ่โคราช “เซ็นทรัล-เดอะมอลล์” มอบวัคซีน 100,000 โดส ประกาศลั่นโคราชเป็นต้นแบบ​ทุกภาคส่วนรวมใจเป็นหนึ่งเดียวจัดระบบบริการฉีดวัคซีนโควิด ที่สามารถวางระบบหมุนเวียนเข้ารับการฉีด 600 คนต่อชั่วโมง พร้อมชื่นชมยกให้เป็น “โคราชโมเดล” เตรียมปรับใช้กับจังหวัดอื่นๆ

เมื่อวันที่ 22 พ.ค.64 นายอนุทิน ชาญ​วี​รกูล​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​สาธารณสุข​ พร้อมด้วย นพ.เกียรติ​ภูมิ ​วงศ์​รจิต ​ปลัด​กระทรวง​สาธารณสุข​ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมจุดบริการวัคซีนโควิดให้กับประชาชนใน 2 ห้างใหญ่ “เซ็นทรัลพลาซาโคราช” และ “เดอะมอลล์โคราช”

สำหรับจังหวัดนครราชสีมามีผู้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนแล้วกว่า 500,000 ราย จากเป้าหมายจำนวน 800,000 ราย โดยมีจุดฉีดวัคซีน จำนวน 51 จุดกระจายในพื้นที่ 32 อำเภอ ส่วนจุดเอกชนที่ “เซ็นทรัลพลาซาโคราช” หน่วยบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของ “รพ.มหาราชนครราชสีมา” นอกพื้นที่จับมือเอกชนสร้างรูปแบบ “HACKVAX KORAT 2021” ระบบการฉีดที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว รองรับกับประชาชนเป็นจำนวนมาก และเป็นต้นแบบแห่งแรกในอีสาน

และ “เดอะมอลล์โคราช” ตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางของชาวโคราช และสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่สุดของจังหวัดนครราชสีมา โดยผนึกกำลังกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด, สถานพยาบาลภาครัฐได้แก่ โรงพยาบาลเทพรัตน์ฯ, โรงพยาบาลค่ายสุรนารี, โรงพยาบาลจิตเวช องค์กรท้องถิ่น และเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนทุกโรงพยาบาลในจังหวัด เปิดให้บริการที่ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 มีพื้นที่รวมกว่า 4,600 ตรม. สามารถรองรับการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้วันละ 4,000 คน

ด้านนายอนุทิน กล่าวว่า “จากการตรวจเยี่ยมจุดบริการ​วัคซีนโควิดจังหวัดนครราชสีมา ได้รับการสนับสนุนพื้นที่จากห้างสรรพสินค้าทั้ง 2 แห่ง คือ เซ็นทรัลพลาซานครราชสีมา และ เดอะมอลล์​โคราช เป็นที่น่าพอใจมาก ซึ่งเป็นระบบริการนอกสถานพยาบาลที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาได้วางไว้ โดยได้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งโรงพยาบาลจากทุกสังกัดในจังหวัด ฝ่ายปกครอง สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเห็นได้ชัด”

“โดยมีการวางระบบเข้าออกทางเดียว ทำให้เกิดการหมุนเวียนของผู้เข้ารับบริการ ไม่แออัด มีความสามารถในการฉีดได้ 600 คนต่อชั่วโมง ต่อแห่ง ซึ่งจะให้ระบบนี้เป็นโมเดลหนึ่งที่จะนำมาปรับใช้ยังหน่วยบริการต่างๆ เมื่อวัคซีนมีมากขึ้น- เพื่อผลักดันให้ประชาชนในประเทศได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด”

นายอนุทินกล่าวอีกว่า “ด้านประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา ให้ความร่วมมือพร้อมใจเข้ารับบริการฉีดวัคซีนกันถ้วนหน้า เช่น จุดบริการที่เซ็นทรัลพลาซา ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นผู้บริหารจัดการ เปิดบริการประชาชนตั้งแต่วันที่ 19 – 23 พฤษภาคม 2564 รวม 3 วัน มีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว 10,002 คน”

“ส่วนที่ห้างเดอะมอลล์ ก็มีประชาชนหลั่งไหลเข้ารับบริการจำนวนมาก ภาพรวมของจังหวัดมีประชาชนที่ฉีดเข็ม 1 แล้วจำนวน 30,651 คน และเข็มที่ 2 จำนวน 19,372 คน ซึ่งเป็นไปตามจำนวนของวัคซีนที่ได้จัดสรรมา และในช่วงที่วัคซีนมามากขึ้นได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะต้องฉีดวัคซีนให้กับประชาชนชาวโคราชให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากร หรือประมาณ 1,885,023 คน”

“โดยจะฉีดให้ได้วันละประมาณ 30,000 คน ในส่วนกลุ่มผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงที่มีอยู่ในระบบประมาณ 11,000 คน จะมีทีมแพทย์ รวมถึงระบบ 3 หมอ คอยดูแลให้เข้าถึงการฉีดวัคซีน หากเป็นไปตามแผน 50 วันจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะได้รับการฉีดวัคซีนแล้วยังมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้อยู่ แต่จะไม่มีอาการที่รุนแรง และไม่เสียชีวิตจากโรคโควิด ขอให้ยังคงเข้มมาตรการป้องกันตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างล้างมือบ่อยๆ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน” นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้าย