กองทัพนักกีฬาตะกร้อนานาชาติบุกโคราช เจ้าภาพจัดศึกตะกร้อชิงแชมป์โลก “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 33 พร้อมรับทัพนักกีฬากว่า 30 ชาติ สนามชิงชัยที่ “เทอร์มินอล21โคราช” จัดครั้งแรกในภาคอีสาน สนามรองรับกองเชียร์ทุกชาติได้มากถึง 5,000 กว่าที่นั่ง แฟนตะกร้อพลาดไม่ได้ชมฟรีทุกนัด เริ่ม 23-30 ก.ย.นี้
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. เวลา 13.00 น. ที่บริเวณชั้น G ศูนย์การค้าเทอร์มินอล21โคราช “สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย” ร่วมกับ “ศูนย์การค้าเทอร์มินอล21โคราช” จัดงานแถลงข่าวการจัดการแข่งขัน “เซบักตะกร้อชิงแชมป์โลก” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 33 ประจำปี 2561 ขึ้น โดยได้รับเกียรติจาก พลตรีจารึก อารีราชการัณย์ นายกสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย, นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, พลตรีเภา โพธิ์งาม ผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบที่ 2, นายวิทยา อภินันท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล21โคราช ร่วมกันแถลงข่าวในครั้งนี้
นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “ในนามตัวแทนชาวโคราช จังหวัดฯรู้สึกปลื้มปิติและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ทางศูนย์การค้าเทอร์มินอล21โคราช ได้จัดการแข่งขัน “เซบักตะกร้อชิงแชมป์โลก” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 33 ประจำปี 2561มาที่จังหวัดนครราชสีมาเป็นครั้งแรก”
“ถือได้ว่าเป็นการยกระดับการจัดการแข่งขันกีฬาในจังหวัดก้าวสู่ระดับโลกได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ และทางจังหวัดเองก็เชื่อมั่นว่า ศูนย์การค้าฯแห่งนี้มีความพร้อมทั้งด้านสถานที่การจัดงาน ระบบรักษาความปลอดภัย ร่วมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในทุกด้าน ที่จะทำให้ทีมงานนักกีฬา และผู้เข้าร่วมงาน ได้รับความประทับใจอย่างแน่นอน ในส่วนของจังหวัดยินดีให้การสนับสนุน และให้ความร่วมมือเต็มที่เช่นกัน” รองผู้ว่าโคราช กล่าว
นายวิทยา อภินันท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล21โคราช กล่าวเสริมว่า “ในส่วนของศูนย์การค้าฯเราเองมั่นใจว่า จังหวัดนครราชสีมามีศักยภาพมากพอที่จะรองรับการจัดงานในระดับโลกได้ เราจึงได้ปรึกษากับทางสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย และได้จัดให้มีการแข่งขันเซบักตะกร้อชิงแชมป์โลก “คิงส์คัพ” ครั้งที่33 ขึ้นที่นี่เป็นครั้งแรกในโคราช”
“และเทอร์มินอล21โคราช ขอยืนยันว่า เรามีความพร้อมที่จะเป็นสนามจัดการแข่งขันให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งสนามแห่งนี้สามารถรองรับกองเชียร์ได้ถึง 5,000 ที่นั่ง พร้อมห้องรับรอง ห้องพักนักกีฬาจากทุกชาติ และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของทางสมาคมฯที่ได้รับมอบหมายให้โคราชเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันครั้งนี้”
นายวิทยา กล่าวอีกว่า “การแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลก “คิงส์คัพ” ที่โคราชเป็นครั้งแรกในภาคอีสานอีกด้วย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ดีของเยาวชน และประชาชนทั่วไป ที่มีความสนใจในกีฬาตะกร้อจะได้ร่วมเชียร์ พร้อมให้กำลังใจทัพนักกีฬาไทยถึงขอบสนามฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย”
“ซึ่งการแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 10 รายการ ประกอบด้วย ทีมชุดชาย ชิงถ้วยพระราชทานรัชกาลที่10 ซึ่งไทยเป็นแชมป์มา 30 สมัย, ทีมชุดหญิง ไทยเป็นแชมป์ติดต่อกัน 20 สมัย, คู่ชาย, คู่หญิง, ทีมเดี่ยวชาย, ทีมเดี่ยวหญิง, 4 คนชาย,4 คนหญิง, ตะกร้อลอดห่วงสากลชาย และตะกร้อลอดห่วงสากลหญิง โดยมีนักกีฬา 30 ชาติเข้าร่วมแข่ง ระหว่างวันที่ 23-30 ก.ย.นี้ที่ เทอร์มินอลฮอลล์ ชั้น4 จึงขอเชิญชาวโคราชมาร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี ต้อนรับนักกีฬาจากทุกชาติด้วยความอบอุ่นและประทับใจ” นายวิทยา กล่าว
ด้าน สิบเอกพรชัย เค้าแก้ว นักกีฬาเซบักตะกร้อทีมชาติไทย กล่าวว่า “สำหรับกีฬาเอเซียนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซียที่ผ่านมา ถือว่าเป็นไปตามเป้า ทีมชายได้มา 2 เหรียญทอง กับคู่แข่งที่ถือว่าน่ากลัวประมาทไม่ได้ทั้ง มาเลเซีย ลาว เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย ซึ่งมาเลเซียก็ถือว่าเป็นคู่ปรับเก่า แต่ตอนนี้ก็มีอีกหลายๆประเทศที่พัฒนาขึ้นมาก ซึ่งถือเป็นคู่แข่งใหม่แต่ก็ได้เจอบ่อยๆ ถือว่าเป็นทีมที่ประมาทไม่ได้”
“สำหรับการแข่งขันเซปักตะกร้อคิงส์คัพ ครั้งนี้ที่มีโอกาสมาแข่งที่โคราช ก็จะพยายามเต็มที่ เพราะเป็นแชมป์เก่าด้วย จึงอยากที่จะรักษาแชมป์รักษาถ้วยไว้ให้ได้ ซึ่งเป็นการแข่งขันที่จัดขึ้นทุกปี ซึ่งตนเองก็ดีใจที่ได้มาแข่งที่โคราช เพราะถึงจะเป็นคนขอนแก่น แต่ก็รับราชการทหารอยู่ที่โคราช คือที่ พันซ่อมในกองทัพภาคที่ 2”
“อยากฝากพี่น้องชาวโคราชและจังหวัดใกล้เคียง ให้มาชมมาเชียร์กันเยอะๆ อยากให้แฟนๆมาชม เพราะเป็นปีแรกที่จัดใน ต่างจังหวัดเพื่อเป็นกำลังใจให้นักกีฬาด้วย และสามารถเข้าชมฟรีด้วย สำหรับคู่แข่งที่น่ากลัวก็ยังคงเป็นมาเลเซียเช่นเคย” สิบเอกพรชัย กล่าวทิ้งท้าย