ทัวร์ลงเป็นเรื่องอีกแล้ว! ชาวโคราชสุดยัวะ! “ช่องส่องผี” พิธีกรชื่อดัง “บ๊วย”เชษฐวุฒิ วัชรคุณ, อาจารย์เรนนี่ และ “เจมส์”ศราวุฒิ หลังมาทำรายการที่วัดศาลาลอยโคราช กล่าวหา “นางสาวบุญเหลือ” ลูกบุญธรรมของ “คุณหญิงโม” เป็นภรรยาน้อยของ “พระยาปลัดทองคำ” เจ้าเมืองนครราชสีมา ประธานกลุ่มคนรักษ์ย่าโมระบุทำลายประวัติศาสตร์ และย่ำยีหัวใจชาวโคราช เตรียมแจ้งความดำเนินคดีรายการ เชื่อคนไม่หวังดีต่อย่าโมต้องมีอันเป็นไปไม่ช้าก็เร็ว

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ต่อกรณีที่รายการ “ช่องส่องผี” นำโดย นายเชษฐวุฒิ วัชรคุณ หรือบ๊วย อาจารย์เรนนี่ สุระประภาคำขจร และเจมส์ ศราวุฒิ วรพัทธ์ทีวีโชติ เดินทางมาบันทึกเทปรายการที่วัดศาลาลอย อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นวัดที่บรรจุอัฐิของท้าวสุรนารี หรือย่าโม ที่ชาวนครราชสีมาและคนไทยทั้งประเทศให้ความเคารพนับถือเป็นวีรสตรีที่ร่วมกับ น.ส.บุญเหลือ ลูกบุญธรรม และหญิงกล้าชาวโคราช ร่วมกันกอบกู้เมืองนครราชสีมาที่ถูกข้าศึกเข้ามายึด

โดยในระหว่างที่มีการบันทึกเทปที่บริเวณหน้าอุโบสถเก่าที่มีรูปปั้นของพระยาปลัดทองคำ เจ้าเมืองนครราชสีมา สามีของท้าวสุรนารี หรือ ย่าโม ในวัดศาลาลอย อาจารย์เรนนี่ กล่าวว่า

“ตนเองมีจิตสัมผัสต่อสิ่งลี้ลับเมื่อมายืนอยู่ตรงนี้ ท่านปลัดทองคำและย่าโมรวมทั้งนางสาวบุญเหลือก็มาอยู่ตรงนี้ด้วยกัน โดยท่านปลัดทองคำบอกว่าแม่บุญเหลือเป็นเมียของท่านอีกคนหนึ่ง ส่วนย่าโมเป็นเมียหลัก แม่บุญเหลือเป็นเมียสองไม่ใช่ลูกสาวบุญธรรม และแม่บุญเหลือก็เป็นคนบอกเรนนี่เองว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ”

“คุณย่าบุญเหลือก็อยู่ที่นี่อยู่ตรงก้านธูปแม่บุญเหลืออยู่ด้านหลังปลัดทองคำพร้อมชี้ให้กล้องแพนไปที่บริเวณที่ตั้งธูปเทียน หลังเทปรายการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งไปแล้ว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นในจังหวัดนครราชสีมาเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่มีการตำหนิการนำเสนอประวัติศาสตร์ของรายการ”

นายสมาน ฐิติพงศ์ทัพพ์ ประธานกลุ่มคนรักษ์ย่าโม กล่าวว่า “การกล่าวของ อาจารย์เรนนี่ ที่ระบุว่า “ย่าบุญเหลือ” เป็นเมียน้อยของพระยาปลัดทองคำ เจ้าเมืองนครราชสีมาในสมัยนั้น แค่คิดก็จัญไรแล้ว ถือว่าไม่ให้เกียรติกับย่าโม และเป็นการทำลายคุณความความดีของย่าโมและย่าบุญเหลือ ที่ท่านสร้างวีรกรรมเอาไว้ให้ชาวโคราช ซึ่งกว่าจะกอบกู้บ้านเมืองมาได้ต้องแลกด้วยเลือดเนื้อและชีวิต คนโคราชทุกคนร่วมกันสร้างอนุสรณ์สถานของย่าโมขึ้นมา ก็เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของท่านที่ร่วมกันกอบกู้บ้านเมืองมา”

“คุณเป็นใครมายืนกล่าวหาว่าย่าโมและย่าบุญเหลือเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ คุณขี้รดหัวใจคนโคราชและกำลังทำลายคุณงามความดีที่วีรสตรีของไทยสร้างมา รู้ไหมว่าประวัติศาสตร์หน้านี้กว่าจะเขียนขึ้นมาได้คือชีวิตของคนที่เสียสละ กี่ปีมาแล้วที่ย่าโมได้พาชาวโคราชต่อสู้ ที่ ทุ่งสัมฤทธิ์เคยรู้ศึกษาประวัติศาสตร์และลงไปดูสถานที่จริงที่ชาวโคราชเทิดทูนย่าบ้างหรือไม่”

ประธานกลุ่มคนรักษ์ย่าโม กล่าวอีกว่า “อยู่ดีๆ คุณมาบอกว่าย่าโม ย่าบุญเหลือ เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตนคนหนึ่งที่ยอมไม่ได้จริงๆ อาจารย์เรนนี่จะเป็นใครมาจากไหนตนไม่รู้ แต่ไม่ควรมาอวดรู้ในลักษณะเช่นนี้ ตนถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่สมควรอย่างยิ่ง ตนจึงอยากเรียกร้องให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจังเสียที ซึ่งที่ผ่านมา ปล่อยปละละเลยให้คนใช้โลกโซเชียลมาย่ำยีทำลายย่าโม ด้วยการนำภาพใบหน้ามาตัดต่อใส่แทนใบหน้าของย่า และใช้คำไม่สุภาพไม่เหมาะสมหลายครั้ง”

“มาวันนี้ก็มาปล่อยให้ใครก็ไม่รู้ที่ศีล 5 ไม่ครบ มาทำลายย่าโมแบบนี้ ตนไม่เห็นด้วย ถ้าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาดำเนินการไม่ได้ กลุ่มคนรักษ์ย่าโมในฐานะคนโคราชที่เสียหายจะดำเนินการเอง ด้วยการรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินบุคคลพวกนี้ให้ถึงที่สุด” ประธานกลุ่มคนรักษ์ย่าโม กล่าว

ล่าสุด นายศุภฤกษ์ อริยปรัชญา แกนนำกลุ่ม “ชาวโคราช พิทักษ์ รักคุณย่าโมและย่าบุญเหลือ ซึ่งเป็นอดีตแกนนำกลุ่มคัดค้านการตั้งจังหวัดบัวใหญ่ กล่าวว่า “ตนในฐานะลูกหลานย่าโม คนโคราช รู้สึกไม่พอใจต่อการกระทำของกลุ่มคนดังกล่าว กระทำการไม่เหมาะสม ไม่สมควร ย่าโมเป็นวีรสตรีของชาวโคราชและชาวไทย เป็นที่เคารพสักการะของชาวไทย”

“ทางรายการเอาข้อมูลมาจากไหน ศึกษาประวัติศาสตร์มามากน้อยเพียงใด จึงมากล่าวหาย่าบุญเหลือแบบนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบจิตใจชาวโคราชอย่างมาก เป็นการเหยียบย้ำหัวใจของคนโคราช และเชื่อว่า คนที่ไม่คิดดี ไม่หวังดีต่อย่าโมและย่าเหลือจะต้องมีอันเป็นไป ไม่ช้าก็เร็ว ให้ทุกคนคอยดู”

“อย่างไรก็ตามต่อเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทางกลุ่มจะไม่นิ่งนอนใจ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานและให้ทนายดูข้อกฎหมาย เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวรวมถึงรายการนี้ด้วย คาดว่าเร็ว ๆ นี้เราจะเข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ” นายศุภฤกษ์ กล่าว