2 เหตุการณ์ “กราดยิง-ไวรัส” ทำ “เทอร์มินอล21โคราช” สุดอ่วมต้องปิดยาว 3 เดือนนานกว่าทุกห้าง ส่งผลกระทบผู้ค้ากว่า 600 ร้านเดือดร้อนหนักทั่วหน้า ด้านผู้บริหารห้างฯเตรียมหามาตรการช่วยเหลือหลังเปิดให้บริการปกติ 

ภายหลังจากที่นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มีคำสั่งประกาศปิดห้างสรรพสินค้าทุกแห่งในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งปิดห้างครบ 1 เดือนพอดี แต่ก็ยังไม่มีท่าทีที่จะผ่อนปรนให้มีการเปิดห้างสรรพสินค้า ส่งผลให้ผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ ที่จำหน่ายสินค้าอยู่ในห้างสรรพสินค้าได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะที่ศูนย์การค้า “เทอร์มินอล21โคราช” ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักตั้งแต่เกิดเหตุสะเทือนขวัญกราดยิง เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และมาเจอกับภาวการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซ้ำเติมอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 โคราช พบว่าร้านค้าต่างๆ ที่มีอยู่กว่า 600 ร้าน ต้องปิดร้านไปกว่า 95% เหลือเพียงโซนจำหน่ายสินค้าแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ต และฟู้ดแลนด์ ชั้น LG ที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และธนาคารต่างๆ ที่อยู่ชั้น 2 ซึ่งยังเปิดให้บริการลูกค้าปกติ นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารบางร้าน ที่ให้พนักงานมาตั้งบูธที่ชั้น LG เพื่อรับสั่งออเดอร์จากลูกค้า สั่งซื้อห่อกลับบ้านแทน

นางสาวฐิตารีย์ บุญธรรมสามิตร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 โคราช เปิดเผยว่า “ทางศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 โคราช ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ตั้งแต่เจอเหตุกราดยิงเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งขณะนั้นก็ได้มีการปิดบริการไปเกือบ 1 เดือน”

“ต่อมาก็มาช่วงปลายเดือนมีนาคม 2563 ก็ต้องมาปิดบริการอีกครั้ง จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตอนนี้ร้านค้าต่างๆ ในนี้ ซึ่งมีอยู่กว่า 600 ร้าน ต้องปิดบริการไปกว่า 95% ทุกร้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก”

นางสาวฐิตารีย์ กล่าวอีกว่า “ซึ่งขณะนี้ทางศูนย์การค้าฯ ก็ได้วางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด อาทิ มีการวัดอุณหภูมิ บริเวณจุดเข้า-ออก, มีการทำความสะอาด พ่น ฆ่า เชื้อภายในทั่วบริเวณทุกวัน, มีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อจุดสัมผัสต่างๆ ทุก 30 นาที และจัดระยะห่างลูกค้าอย่างน้อย 1 เมตร เป็นต้น”

“ส่วนจะเปิดให้บริการตามปกติได้เมื่อไหร่นั้น ก็คงต้องรอคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดเท่านั้น ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการแล้ว ก็คงจะต้องมีมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการร้านค้าตามมาอีกครั้ง  ตามความเหมาะสมต่อไป” นางสาวฐิตารีย์ กล่าวทิ้งท้าย