งาน “แห่เทียนโคราช” ดังแรงกระแสข่าวแกะเทียนสร้างสรรค์ดังทุกสื่อดึงเหตุการณ์ 13 หมูป่าติดถ้ำหลวงเนรมิตเป็นเทียนเรียกกระแสดึงนักท่องเที่ยวทั้งต่างจังหวัดและต่างชาติแห่มาชมแน่นทุกปี ด้าน “นายกฯสุรวุฒิ เชิดชัย” พร้อมประกาศความยิ่งใหญ่ประเพณีแห่เทียนโคราช กระตุ้นเศรษฐกิจเมืองโคราชเงินสะพัดกว่า 100 ล้าน
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 เวลา 18.00 น.ที่วัดโพธิ์ เทศบาลนครนครราชสีมา โดย นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนคร นครราชสีมา ร่วมกับจังหวัดนครราชสีมา การท่องเที่ยวเเห่งประเทศไทย ( ททท.) วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา, เทศบาลเมืองพิมาย และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา ร่วมเเถลงข่าวจัดงานประเพณีเเห่เทียนโคราช ประจำปี 2561 ในวันที่ 27-28 ก.ค. ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ชิงถ้วยพระราชทาน “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี”
โดยงานแห่เทียนโคราช 2 วัน สำหรับวันที่ 27 ก.ค.ที่ลานย่าโมมีกิจกรรมเริ่มเวลา 18.00 น.ชมต้นเทียนพรรษา ประเภทก. และข., การแสดงวงดนตรีโปงลาง, การแสดงแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมภูมิภาคลุ่มน้ำโขง, ชมประติมากรรมเทียน 12 นักษัตริย์ และเลือกช้อปสินค้าโอท็อป-อาหารดีเมืองโคราช
และวันที่ 28 ก.ค.2561 เริ่มปล่อยขบวนแห่เทียนเวลา 09.00 น.ที่บริเวณแยกห้างคลังพลาซ่าจอมสุรางค์ และเวลา 20.00 น.พิธีมอบรางวัลการประกวดต้นเทียนพรรษา พร้อมการแสดงแสง สี เสียงแห่เทียนพระเวสสันดรทรงทาน 2 กุมารแก่เฒ่าชูชก
สำหรับแชมป์ประกวดต้นเทียนและขบวนแห่เทียนปีที่แล้ว “วัดนอก”จากอำเภอโชคชัย รักษาแชมป์สมัยที่ 3 คว้าชนะเลิศประกวดต้นเทียนประเภท ก. รับรางวัลถ้วยพระราชทาน”สมเด็จพระเทพฯ” ส่วนรองอันดับ1″วัดใหม่สระประทุม”อ.โชคชัย, รองอันดับ2″วัดเดิม”อ.พิมาย, รองอันดับ3″วัดบิง”อ.โชคชัย, รองอันดับ4″วัดใน”อ.โชคชัย และรองอันดับ 5 “วัดโพธิ์”อ.เมือง
นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนคร นครราชสีมา กล่าวว่า “งานแห่เทียนโคราชปีนี้เราตั้งใจจัดให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี โดยเฉพาะไฮไลท์กิจกรรมทั้ง 2 วันมีการแสดงแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งจัดครั้งแรกที่โคราช และยังมีนักเรียนนักศึกษาในโคราชจากสถานศึกษามาร่วมแสดงต่างๆด้วย”
“เรามั่นใจว่างานแห่เทียนโคราชปีนี้จะอิ่มตา อิ่มใจและอิ่มบุญอย่างแน่นอน นอกจากขบวนแห่เทียนจากค้มวัดต่างๆอันสวยงามแล้ว อีกไฮไลท์ที่ไม่เหมือนใครหาดูได้เฉพาะโคราชเท่านั้น คือการแสดงแสง สี เสียงแห่เทียนพระเวสสันดรทรงทาน 2 กุมารแก่เฒ่าชูชก ต้องมาชมให้ได้ยิ่งใหญ่ตระการตาจริงๆ”
“ในส่วนของต้นเทียนเรื่องพุทธศาสนายังคงไว้ซึ่งประเพณีอันดีงามที่สืบทอดกันมา แต่จะมีจุดเด่นเป็นเทียนสร้างสรรค์ที่เป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน โดยปีนี้เป็นเรื่องราวของเด็กๆ 13 ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ที่ไปติดในถ้ำหลวง เป็นไอเดียที่นำมาตกแต่งด้วยเทียน ตนเชื่อว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่แสดงออกถึงความร่วมมือของคนทั่วโลกที่ไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าเหตุการณ์ถ้ำหลวง ซึ่งจุดเด่นเทียบสร้างสรรค์นี้เป็นจุดขายของงานแห่เทียนโคราชอีกด้วย”
นายกฯสุรวุฒิ กล่าวต่อว่า “และที่สำคัญจุดขายนี้จะเป็นสิ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาเที่ยวโคราชเพื่อมาชมงานแห่เทียนอีกด้วย เราจะมีไอเดียใหม่ๆเข้ามาเสริมการแกะเทียนรูปแบบตามวัฒนธรรมตามสถานการณ์ของบ้านเมืองเป็นหลัก แต่จะแฝงด้วยความสนุกสนานและมีสาระทันเหตุการณ์”
“ตนได้คุยปรึกษากันกับหลายๆหน่วยงานที่มาร่วมสร้างสรรค์งานแห่เทียนโคราช เพื่อเปิดเมืองดึงคนจากต่างจังหวัดรวมถึงชาวต่างชาติให้มาจับจ่ายใช้เงินในงานแห่เทียนให้ได้มากที่สุด ทาง ททท.ก็แจ้งว่ามีการจองโรงแรมแล้วจากกระบี่เพื่อมาชมแห่เทียนโดยเฉพาะ หากปีนี้สำเร็จปีหน้าก็จะเพิ่มเรื่องอีเว้นท์ต่างๆเข้ามาเพื่อดึงนักท่องเที่ยวจากที่อื่นให้อยากมาเที่ยวโคราชให้ได้มากขึ้น และปีนี้ตนมั่นใจว่าจะมีคนมาดูขบวนแห่เทียนโคราชเกิน 100,000 คน เงินจะสะพัดโคราชกว่า 100 ล้านบาทแน่นอน” นายกฯสุรวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย