“กระทรวงยุติธรรม” เปิดงาน “มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 2 และยุติธรรมพบประชาชน” ที่โคราช ช่วยเหลือประชาชนบรรเทาหนี้กรณีก่อนฟ้อง-หลังฟ้อง ช่วยขยายเวลาการชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดดอกเบี้ย ลดค่างวดรายเดือน งดฟ้องดำเนินคดี และรับเงื่อนไขปลดผู้ค้ำประกันฯลฯ
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 65 ที่ตลาดเทิดไท (ตาลคู่) จ.นครราชสีมา มีการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 2 และยุติธรรมพบประชาชนโดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ตลอดจนคณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานในสังกัดและประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเข้าร่วมงาน
สำหรับบรรยากาศภายในงานนอกจากมีการไกล่เกลี่ยหนี้จากสถาบันการเงินต่างๆแล้ว ยังมีหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรมที่เข้าร่วมงาน เช่น กองทุนยุติธรรม ที่มาให้คำปรึกษาด้านกฎหมายและให้ความรู้แก่ประชาชน กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะมีการบริการรับเรื่องร้องเรียน กรมคุมประพฤติจะมีบริการตัดผมให้กับประชาชน การจำหน่ายผลผลิตของอาสาสมัครคุมประพฤติและผู้ถูกคุมประพฤติ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ที่จัดกิจกรรมค้นหาตัวตนคนนิรนาม และสำนักงาน ป.ป.ส ที่มีการประมูลทรัพย์สินของผู้ค้ายาเสพติด และยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “นครราชสีมาเป็นจังหวัดที่สำคัญของประเทศไทย พวกเราถือเป็นเกียรติที่ได้จัดงานในระดับภูมิภาคเป็นจังหวัดแรก ซึ่งเราเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว การเกษตร และเศรษฐกิจของภาค โดยการจัดงานครั้งนี้สอดคล้องกับโครงการ โคราชไม่จน ที่เน้นการแก้ไขความยากจนให้ประชาชน”
นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า “การจัดงานวันนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามาร่วมจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินฯครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.กองทุนเงินให้กูยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 2.บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ท จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด 4.บริษัท เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด 5.ธนาคารออมสิน 6.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 7.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ 8.ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)”
“โดยเชิญประชาชนใน จ.นครราชสีมา ชัยภูมิและบุรีรัมย์ มาร่วมงานด้วย มีกลุ่มเป้าหมายของการไกล่เกลี้ยหนี้สิน 13,050 ราย มูลค่าหนี้รวม 1,155 ล้านบาท แบ่งเป็นผู้เป็นลูกหนี้ก่อนฟ้อง 9,580 ราย มูลค่าหนี้ 677 ล้านบาท และผู้เป็นลูกหนี้หลังฟ้อง 3,157 ราย มูลค่าหนี้ 478 ล้านบาท”
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า “ในปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ กระทรวงยุติธรรม ได้รับนโยบายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ประกาศว่า 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ จึงได้เดินหน้าจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินภาคครัวเรือน ครั้งที่ 1 ขึ้น เมื่อวันที่ 25-26 ก.พ. 65 ณ ที่ไบเทคบางนา ซึ่งท่านนายกฯมีความห่วงใย เราจึงเดินหน้าจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนขึ้นใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ”
“ซึ่งงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนครั้งที่ 2 จัดขึ้นที่ นครราชสีมา โดยประโยชน์ที่ประชาชนที่มาร่วมงานนี้จะได้รับในกรณีก่อนฟ้อง คือ การขยายเวลาการชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดดอกเบี้ย ลดค่างวดรายเดือน งดฟ้องดำเนินคดี และรับเงื่อนไขปลดผู้ค้ำประกัน สำหรับในส่วนของชั้นบังคับคดี หรือหลังฟ้อง ประโยชน์ที่จะได้รับ คือ ขยายเวลาผ่อนชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดจำนวนเงินผ่อนชำระหนี้ งดยึดทรัพย์ งดขายทอดตลาด ลูกหนี้จะไม่ถูกบังคับคดีและยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย แต่หากบางคนที่ไม่ได้มา เราก็ยังติดตามให้ต่อ ยังตามมาแก้ปัญหาได้ภายหลังแต่จะไม่ได้สิทธิพิเศษเท่าในงาน”
“ผมเข้าใจในเวลานี้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 บางคนตกงาน บางคนถูกลดเงินเดือน ซ้ำร้ายไปกว่านั้น สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาแพงขึ้น ราคาน้ำมันก็พุ่งสูง ซึ่งเกิดจากสภาวะของโลก ผมในฐานะรัฐมนตรีจะไม่นิ่งเฉยจะเดินทางไปช่วยคลายหนี้ให้กับทุกคนเท่าที่จะทำได้”
“การที่ผมมาในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องของการเมือง ผมต้องการมาช่วยเหลือประชาชน ผมเป็นนักการเมืองมา 40 ปี ใกล้ชิดกับประชาชนมาโดยตลอด ได้ศึกษาปัญหาความเดือดร้อนที่พี่น้องประชาชนต้องพบเจอ ผมถูกสอนมาตลอดว่า การเป็นรัฐมนตรีต้องลงพื้นที่มารับฟัง แล้วนำสิ่งต่างๆไปหารือกับผู้บริหาร และทำออกมาเป็นนโยบาย การแก้หนี้ต้องแก้ที่ต้นเหตุ ผมยืนยันเช่นเดิมว่าจะทำงานเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและขอให้พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์จากงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินในครั้งนี้อย่างสูงสุด” นายสมศักดิ์ กล่าว