โรงแรมปัญจดาราโคราช” รพ.สนามโควิด-19 Local Quarantine แห่งแรกในอีสาน ใกล้เสร็จสิ้นภารกิจในวันที่ 15 มิ.ย.63 หลังจากไวรัสโควิด19 เมืองโคราชเป็นศูนย์มาเดือนกว่า พร้อมเตรียมฆ่าเชื้อทั้งโรงแรมโดยทีมจากกรุงเทพฯ “สมชัย ฉัตรพัฒนศิริ” เผยเรามีระบบสาธารณสุขที่ยอดเยี่ยม รัฐบาล-ทีมแพทย์สกัดโรคได้ดีระดับโลก!

นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ เจ้าของโรงหนังไฟว์สตาร์-โรงแรมปัญจดารา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า “เริ่มต้นโครงการเสนอตัวเปลี่ยนโรงแรมปัญจดารา ให้เป็นโรงพยาบาลสนาม ตนได้โพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 63 ขอเสนอแนวทางช่วยเหลือจังหวัดฯกรณีมีผู้ป่วยหรือสงสัยติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยโพสต์ว่า

“ประเทศจีน..สร้างโรงพยาบาลสนามขนาด 1,000 เตียงภายใน 10 วัน โคราชบ้านเราสามารถมีโรงพยาบาลสนามภายใน 2 วัน โดยเราจะเปลี่ยนแปลงสถานที่ของเราให้เป็นโรงพยาบาลสนามขนาด 500 เตียง จนกว่าภารกิจ”โควิท 2019″ จะแล้วเสร็จ ถ้าหากทางราชการต้องการและมาหารือร่วมกัน”

“หลังจากนั้นสื่อต่างๆก็มาขอสัมภาษณ์จนเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ และเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 ทางสาธารณสุขจังหวัดฯก็เข้ามาคุย ซึ่งตอนนั้นทางโคราชก็มีผู้ติดเชื้ออยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว ซึ่งตนคิดว่า เราสร้างโรงพยาบาลสนามได้ทำไมไม่มีใครทำอะไร เลยเข้ามาคุยว่าจะทำแบบไหน อย่างไร แล้วก็เข้ามาตรวจสถานที่โรงแรมปัญจดารา เมื่อวันที่ 22 -23 มีนาคม”

นายสมชัย กล่าวอีกว่า “ตอนแรกที่ประเมินไว้ว่าคนติดเชื้อไวรัสโควิด19 จะมีมาก เพราะดูจากผู้ติดเชื้อที่ประเทศจีน แต่ในโคราชกลับมีแค่ 19 คนเท่านั้น ประกาศปิดให้บริการห้องพักชั่วคราว พร้อมเปิดเป็น รพ.สนามโควิด-19 แห่งแรกในอีสานโดยเริ่มกักตัวจริงๆคือวันที่ 5 เมษายนคนแรกที่มาเป็นในกลุ่มเซียนมวยตามข่าวเลย และที่มาจากธนาคารกรุงไทย กลุ่มนี้คือผู้ติดเชื้อแล้วรักษาหายที่โรงพยาบาล ก็มากักตัวต่อที่ปัญจดารา 14 วัน ซึ่งก็ไม่ได้พบมีเชื้อแล้ว”

“สรุปตั้งแต่เปิดเป็นสถานที่กักตัว 14 วัน มีผู้มากักตัวที่โรงแรมปัญจดาราถึงวันที่ 31 พ.ค.ประมาณ 40-50 คน ตอนนี้ยังเหลืออยู่ 6 คน คาดว่าจะหมดในวันที่ 5 มิถุนายน ซึ่งตามที่คุยไว้คือจะรับถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2563 จะปิดโครงการโรงพยาบาลสนามสถานที่สำหรับเฝ้าสังเกตอาการผู้ที่กักตัวเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน หรือ Local Quarantine พร้อมกับปิดโครงการแจกข้าวกล่องที่ทำมาทุกวันอีกด้วย”

นายสมชัย กล่าวต่อว่า “ตลอดเวลาเราได้เห็นน้ำใจชาวโคราชมาร่วมบริจาคชุดPPE ให้บุคลากรทางการแพทย์ เจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย อาหาร น้ำดื่มฯลฯ ให้กับทางโรงแรมตลอดเวลาที่ใช้เป็นรพ.สนาม”

“หลังจากปิดโครงการทางสาธารณสุขจะมาทำความสะอาด และได้ยื่นหนังสือถึงโครงการ “ร้อยดวงใจต้านภัยวิกฤตอากาศ” เป็นมูลนิธิฯที่เกี่ยวกับการฆ่าเชื้อจากที่กรุงเทพฯ จะส่งทีมมาฆ่าเชื้อทั้งหมดในโรงแรม หลังจากนั้นก็จะเปิดให้บริการได้ คิดว่าไม่มีผลกระทบกับการใช้บริการ เพราะที่นี่ไม่มีคนป่วยติดเชื้อมีเพียงผู้มากักตัวหลังจากรักษาหายจากรพ.แล้ว” 

“สถานการณ์โควิด ในไทย เรามีบุคลากรทางการแพทย์รักษาได้ดี วางแผนได้ดี ทีมสาธารณะสุขเรายอดเยี่ยม เพราะเราพัฒนามาถึง อสม. รพ.สต ซึ่งที่ประเทศอื่นไม่มีบุคลากรทางการแพทย์มากขนาดนี้ ของเรามีทีม อสม. 1 คน ดูแลประชาชน 5-8 หลังคาเรือน ถือว่ายอดเยี่ยมที่สุด และรัฐบาลมีมาตรการต่างๆออกมาควบคุมได้ดีที่สุดในโลก”

“สำหรับการใช้วิถีชีวิตใหม่ หรือ New Normal คาดว่าจะต้องอยู่กับเราไปอีกเป็นปีเพราะประเทศไทยไม่ได้ตรวจเยอะ ขึ้นอยู่กับว่าหากมีคนถ้ามีเชื้อไวรัสแล้วออกไปใช้ชีวิตปกติก็อาจจะกลับมาติดได้ บางคนก็อาจจะมีภูมิต้านทาน สำหรับการใช้ชีวิต คนในเมืองคงต้องปรับตัว จะใช้จ่ายอะไรต้องระมัดระวังเพราะตอนนี้เราใช้ชีวิตที่ไม่ปกติ” นายสมชัย กล่าวทิ้งท้าย