ผู้ว่าฯ-ข้าราชการ พร้อมประชาชนชาวโคราช ร่วมใจเดินเท้า 8 กิโลเมตร กว่า 4 ชั่วโมง ประกอบพิธีสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ สมพระเกียรติใน “พิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์” เพื่อใช้ใน “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก” ณ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ต้นน้ำลำตะคอง ขบวนแห่สุดงดงามลอดประตูชุมพลสิ้นสุดที่วัดพระนารายณ์ฯเพื่อทำน้ำ-สมโภชน้ำอภิเษก
เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2562 เวลา 11.52 น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานนำหัวหน้าส่วนราชการและประชาชนทุกหมู่เหล่า ประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ต้นน้ำลำตะคอง ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดกำเนิดสาขาลุ่มน้ำมูล แหล่งน้ำอุปโภคบริโภคของชาวโคราช โดยเป็นน้ำผุดกลางผืนป่ามรดกโลกแห่งที่ 5 ดงพญาเย็น-เขาใหญ่
สำหรับสถานที่ตักน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ มีตำนานเล่าขานมากมายทั้งยังเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย โดยต้องเดินเท้าจากหอดูสัตว์หนองผักชี ลัดเลาะไปตามทางเดินป่าและข้ามคลองน้ำธรรมชาติไปที่เหนือฐานปฏิบัติการเฉพาะกิจคลองอีเฒ่า ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธี รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมง
โดยประกอบพิธีตามขั้นตอน จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ใส่ขันน้ำสาครในปริมาณร้อยละ 80 ของขันสาคร ซึ่งตักน้ำจำนวนทั้งสิ้น 26 ครั้ง จึงเต็มความจุของขันน้ำสาคร จากนั้นได้เชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปวางบนเสลี่ยง ก่อนตั้งขบวนเดินเท้าออกมาที่ตั้งขบวนรถ บริเวณถนนธนรัชต์ ทางเข้าหนองดูสัตว์หนองผักชี
หลังจากเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นรถแล้ววางบนมณฑป ขบวนรถได้เคลื่อนออกมาจากถนนธนรัชต์ โดยมี นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นั่งอยู่บนรถเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นรถบรรทุกหกล้อขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ได้ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ขบวนรถได้เคลื่อนมาที่หน้าว่าการอำเภอปากช่องและทำพิธีส่งมอบและรับมอบ พานธูป เทียนแพจาก นายครรชิต หัวหน้าอุทยานฯเขาใหญ่ ให้นายอำเภอปากช่อง
ขบวนรถได้เคลื่อนมาตามเส้นทาง ถนนมิตรภาพ มาที่ อ.สีคิ้ว- อ.สูงเนิน ผ่านเข้าตัวเมืองถนนมิตรภาพ เข้าสู่ลานกิจกรรม อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมือง นครราชสีมา ซึ่งมีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และทุกภาคส่วนได้ร่วมจัดกิจกรรมสมโภช เทิดทูนสถาบันและด้วยความรักความรักสามัคคีอย่างยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติ
จากนั้นได้เชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นวางบนเสลี่ยง เพื่อให้เจ้าหน้าที่หามลอดเข้าเมืองทางประตูชุมพลไปที่พระวิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร อ.เมือง นครราชสีมา ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีทำน้ำอภิเษก
เมื่อวันที่ 8 เม.ย.เวลา 16.00 น. ที่บริเวณด้านหน้าวิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร หรือวัดกลางนคร อ.เมือง จ.นครราชสีมา ที่บริเวณด้านหน้าวิหารหลวง นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการได้ร่วมกันประกอบพิธีทำน้ำอภิเษก เพื่อใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในหลวงฯ รัชกาลที่ 10
โดยนายวิเชียร จุดธูปเทียนบูชาฤกษ์ พราหมณ์อ่านโองการบูชาฤกษ์ จากนั้นคณะผวจ. ได้เข้าสู่วิหารหลวง สถานที่ประกอบพิธีทำน้ำอภิเษก ได้กำหนดฤกษ์เวลา 17.00 น. พระราชสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ประธานสงฆ์ประกาศชุมนุมเทวดา เจิมเทียนชัย เทียนมงคลและเทียนพุทธาภิเษก พระสังฆาธิการรวม 30 รูป เจริญพระพุทธมนต์คาถาจุดเทียนชัย เจ้าหน้าที่ประโคมฆ้องชัย วงปี่พาทย์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ เจ้าหน้าที่อาราธนาพระปริตร ก่อนที่พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จนถึงบทไตรสรณคมน์ (พุทธัง)
ต่อมาเจ้าหน้าที่นิมนต์พระเถราจารย์และพระสวดภาณวาร ประกอบด้วยพระครูอนุวัฒน์ ชินวงศ์ หรือหลวงพ่อจอย วัดโนนไทย, พระครูประโชติปัญญากรหรือหลวงพ่อคูณ วรปญุโญ วัดบัลลังก์ อ.โนนไทย, ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ อาศรมสวนพุทธศาสตร์วัดพระนารายณ์มหาราช และพระครูประโชติบุญญาภรณ์ หรือพระอาจารย์ประทวน ประธานสงฆ์วัดถ้ำดาวเขาแก้ว ได้ผลัดเปลี่ยนนั่งเจริญจิตภาวนาอธิษฐานจิตและสวดภาณวาร
และได้ทำพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษก ในวันที่ 9 เม.ย. หลังจากนั้นในวันที่ 10-11 เม.ย. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จะได้เชิญคนโทน้ำที่ได้ทำพิธีอภิเษกที่วัดพระนารายณ์ฯนำไปส่งให้ที่กระทรวงมหาดไทยต่อไป