จับแล้ว!คดีร้องสื่อโคราช“แม่หาย” คืบหน้าพยาบาลวัย 58 ปีโรงพยาบาลสูงเนิน หายตัวปริศนาพร้อมภาพหนุ่มใหญ่ไปกดเงินตู้ ATM หลายครั้ง 150,000 บาท ล่าสุดตำรวจอยุธยาคุมตัวชายที่พาไปได้แล้ว โดยทั้งคู่ติดต่อผ่านเว็บไซต์หาคู่ Thai dating ได้ 7 เดือน เผยออกอุบายและบังคับข่มขู่ลักพาตัวผู้เสียหายออกจากบ้านที่ อ.สูงเนิน ซ้ำเคยหลอกเหยื่อมาแล้ว 6 ราย
คืบหน้า กรณีนายนรินทร์ ถ่ายสูงเนิน อายุ 32 ปี ชาว อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา พร้อมญาติ ได้มาร้องสื่อมวลชนโคราชเพื่อให้ช่วยประกาศหาผู้เป็นแม่ คือนางสนอง ถ่ายสูงเนิน อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที 127 หมู่ 10 ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ภายหลังจากที่หายตัวไปตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 13 ธันวาคม 2561 และพบว่าในบัญชีธนาคารของนางสนอง ถูกกดเงินสดออกจากตู้ ATM ไปเป็นจำนวนมากอย่างผิดสังเกต ซึ่งญาติสงสัยว่าอาจจะเกิดอันตรายกับนางสนอง จึงได้นำเรื่องไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สูงเนิน เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดเว็บไซต์ไทยรัฐ โพสต์คืบหน้าเช้าวันที่ 18 ธ.ค. พ.ต.ท.เศรษฐภัทร เรืองวานิช รอง ผกก.(สส.) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ต.เสกสรร องอาจ สว.สส.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา หลังทราบเบาะแสของผู้ต้องสงสัยที่ลักพาตัวนางสำลีหายไปจากบ้านกบดานที่บ้านหลังดังกล่าว พบนายเอราวัน คุมภวิภาษ อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 197/1 ถนนบางแสนล่าง ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี อยู่ในบ้านและพบเงินสด 190,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร ค้อนและรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายแดงจึงยึดไปตรวจสอบพร้อมนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา
สอบสวนนายเอราวันให้การรับสารภาพว่า “รู้จักกับผู้เสียหายผ่านเว็บไซต์หาคู่ Thai dating และได้นัดเจอพูดคุยกันมาตลอดนานกว่า 7 เดือน เคยไปหานางสนอง ที่ อ.สูงเนิน หลายครั้งจนสนิทสนม ภายหลังได้ออกอุบายและบังคับข่มขู่ลักพาตัวผู้เสียหายออกจากบ้านที่ อ.สูงเนิน เมื่อเย็นวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา”
“โดยพาผู้เสียหายไปเปิดโรงแรมนอนที่ จ.สระบุรี จากนั้นวันรุ่งขึ้นได้บังคับนำเอาบัตร ATM พร้อมรหัสของนางสนองไปกดเงินที่ตู้ ATM ในปั๊มน้ำมัน ปตท.ในพื้นที่ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นจำนวนเงิน 150,000 บาท จากนั้นพาผู้เสียหายเดินทางไป จ.สมุทรสาคร แล้วทำร้ายทุบตีโดยใช้ค้อนเป็นอาวุธตีผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บก่อนนำตัวได้ปล่อยที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร”
นายเอราวัน กล่าวอีกว่า “จากนั้นขับรถมาหาเหยื่ออีกคนที่ติดต่อผ่านเว็บไซต์หาคู่ Thai dating ได้เพียง 2 อาทิตย์ ชื่อนางลิ อายุ 51 ปี ที่ ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่เหยื่อรายนี้ยังไม่ได้มีอะไรกัน และยังไม่ได้ข่มขู่เอาทรัพย์สิน กระทั่งตนถูกตำรวจตามบุกเข้าตรวจค้นจับกุมดังกล่าว ผู้ต้องหารายนี้ยังรับสารภาพอีกว่า หลอกเหยื่อมาแล้ว 6 ราย โดยหาเหยื่อผ่านเว็บไซต์หาคู่ Thai dating และพูดคุยก่อนได้นัดเจอผู้เสียหาย ออกอุบายล่อลวงเหยื่อให้ตายใจให้ออกมาพบ จากนั้นจะบังคับขึ้นรถทำร้ายร่างกายตบตีเพื่อบังคับข่มขืนโดยถ่ายคลิปไว้แบล็กเมล์ป้องกันเหยื่อไปแจ้งความ และบังคับให้เหยื่อบอกรหัสบัตรเอทีเอ็มเพื่อกดเงิน”
ภายหลังการจับกุมนายเอราวัน ปรากฏว่ามีผู้เสียหายที่ทราบข่าวผ่านโซเชียลมาชี้ตัวผู้ต้องหาแล้ว 3 คน ยังเหลืออีก 3 ราย ส่วนนางสนองที่ถูกทิ้ง ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ญาติได้ไปรับตัวแล้วก่อนนำตัวมาให้ชี้ตัวผู้ต้องหาและให้ปากคำที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา โดยเหยื่อให้การว่าสาเหตุที่ถูกทำร้ายร่างกายทั้งทุบที่ท้องและศีรษะ เนื่องจากนายเอราวัน เข้าใจว่าไปอายัดบัตรเอทีเอ็มทำให้กดเงินไม่ได้แต่ภายหลังกดได้