หมอ “รพ.ป.แพทย์2” แถลงสื่อโคราช เรื่องอื้อฉาวหนุ่มโวยลั่นรพ.อ้างหมอทำลูกตายแล้วเอาไปเผา วุ่นทั้งรพ.คนไข้ที่อยู่ในเหตุการณ์วิจารณ์หนักข่าวดังสู่โซเชียลในกลุ่มข่าวชื่อดังโคราช ตามสืบเป็นเรื่องตาลปัตร รพ.เปิดหลักฐานไม่เคยฝากครรภ์พร้อมวีดีโอสารภาพ ผู้หญิงอ้างสร้างเรื่องเท็จโกหกสามีนานถึง 9 เดือน เผยสามีเป็นถึงตำรวจสืบสวนจบใหม่ หลังรู้ความจริงโร่ขอขมาแพทย์รพ.ป.แพทย์ ยอมรับโง่เองเสียใจทำให้ชื่อเสียงรพ.ต้องเสียหาย

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 ก.พ.2561 เวลา 13.05 น.กรณีได้มีผู้ชายบุกไปที่ชั้น1 หน้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลป.แพทย์2 ถ.มหาดไทย อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยแสดงอาการโวยวายก้าวร้าวเสียงดัง พร้อมตะโกนด่าแพทย์ตลอดเวลา ซึ่งขณะนั้นมีคนไข้และญาติผู้ป่วยประมาณ 30 คนได้เห็นเหตุการณ์สร้างความแตกตื่นตกใจเพราะไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น และได้มีการบันทึกภาพแล้วโพสต์ลงโซเชียล และส่งแชร์ไปยังกลุ่มข่าวชื่อดังโคราช จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทำให้ชื่อเสียงรพ.ป.แพทย์เกิดความเสียหาย

หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ของรพ.ได้มาเชิญชายคนดังกล่าวเข้าไปในห้องเพื่อพูดคุยกัน แต่ก็ยังไม่สงบโวยวายใส่แพทย์และพยาบาล ซึ่งทุกคนได้ชี้แจงหลักการและเหตุผลว่า “ภรรยาคุณไม่เคยมาฝากครรพ์ที่นี่เลย แต่ตามประวัติของรพ.ภรรยาคุณเคยได้มารักษาเมื่อปี 2558 เพราะท้องเสียเท่านั้น”

หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวก็เงียบหายไปเลย แต่ รพ.ได้พยายามติดต่อผู้หญิงคนดังกล่าวได้จากประวัติคนไข้ชื่อ นส.สาวิตรี สหุนันท์ และได้ติดต่อให้เข้ามาเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับสารภาพและขอโทษหมอว่า ตนเองไม่ได้ตั้งครรภ์จริงโดยโกหกสามีและพ่อแม่มาตลอด 9 เดือน โดยใช้ผ้ายัดให้เหมือนคนท้องใช้ทุกวิธีที่จะทำให้ดูว่าท้องจริงและโกหกจน 9 เดือนและหาทางออกไม่ได้ก็เลยวางแผนว่าโรงพยาบาล ป.แพทย์ทำลูกตายแล้วเอาลูกไปเผา

โดยทางรพ.ป.แพทย์ได้มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ตั้งแต่วันที่ชายคนดังกล่าวเข้ามาโวยวายที่รพ.และยังบันทึกคำสารภาพของฝ่ายหญิงที่มาขอโทษกับหมอไว้เป็นหลักฐานทั้งหมดอีกด้วย พร้อมเตรียมเปิดให้ชายคนดังกล่าวดูเพื่อจะได้ทราบความจริงทั้งหมด

และเมื่อวันที่ 16 มี.ค.2561 เวลา 10.00 น.ที่โรงพยาบาล ป.แพทย์1 ถนนไชยณรงค์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา สตต.อุกฤษ บริบูรณ์ ผบ.หมู่ปราบปราม สภ.สีดา ได้เข้ามาพบ นายแพทย์ วิศาล ชาญพานิช สูติแพทย์ รพ.ป.แพทย์ เพื่อชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นและกราบขอขมากับแพทย์และพยาบาลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

นายแพทย์ วิศาล ชาญพานิช สูติแพทย์รพ.ป.แพทย์ กล่าวว่า “ผู้หญิงอยากแต่งงานกับผู้ชาย เลยแกล้งบอกว่าท้องมาเรื่อยๆจน 9 เดือน พอครบกำหนดคลอดไม่รู้จะจบเรื่องยังไงเลย อ้างว่า มาฝากท้องกับคุณหมอตั้งแต่แรก และหมอได้ทำคลอดแล้วเด็กเสียชีวิต แล้วเอาไปเผาโดยไม่ให้ฝ่ายชายดู ก่อนเกิดเรื่องผู้ชายมาโวยวายที่ OPD ชั้น 6 ว่าหมอเอาแฟนไปไว้ที่ไหน หาตัวไม่เจอ คือทั้งคู่มาด้วยกัน แต่เมียหลบหายบอกเสียใจมาก บอกว่าเข้าห้องน้ำไม่ยอมออกมา สุดท้ายก็หายไปทั้งคู่”

“จากนั้นคุณหมอได้ค้นดูประวัติพบว่า ผู้หญิงเคยมาตรวจครั้งหนึ่งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว จนทราบที่อยู่จึงตามจนได้เบอร์ แล้วโทรไป ฝ่ายหญิงรับสารภาพว่าโกหกและได้มาขอโทษ แต่ตอนนั้นฝ่ายชายก็ยังไม่รู้เรื่องอีกเพราะผู้หญิงยังปิดเป็นความลับ จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นผู้ชายได้มาด่าโวยวายที่รพ.อีกครั้ง หลังผู้ชายมาโวยวายเสร็จก็ขับรถออกไป เกือบชนคนไข้ที่มาตรวจ หมอจึงได้โทรไปหาผู้หญิงคนนี้อีกรอบ ผู้หญิงบอกว่ายังไม่ได้บอกแฟนเลย แฟนยังไม่รู้ว่าโกหกเรื่องท้องหลังจากนั้นก็เงียบหายไป”

“ต่อมาคุณหมอจึงได้ไปสืบทราบผู้ชายคนนี้คือ “สตต.อุกฤษ บริบูรณ์” เป็นตำรวจอยู่ สีดา เพิ่งจบสิบตำรวจ ไปอยู่หน่วยสืบสวนที่สีดา จากนั้นก็ให้ผู้พันไปสืบ ผ่านไป 1 สัปดาห์พอ“สตต.อุกฤษ” รู้เรื่องที่ผู้หญิงโกหกสร้างเรื่องท้องทั้งหมดขึ้นจึงได้หย่ากัน เพราะเกิดเรื่องจนไปลงในโซเชียล จนทำให้ภาพพจน์โรงพยาบาลเสียหาย วันนี้ฝ่ายชายจึงได้มาขอขมาคุณหมอเพื่อเคลียร์เรื่องทั้งหมด” นายแพทย์ วิศาล กล่าว

ด้าน “สตต.อุกฤษ บริบูรณ์” ผบ.หมู่ปราบปราม สภ.สีดา ได้กล่าวอย่างเสียใจที่กระทำเรื่องวู่วามและทำให้รพ.ป.แพทย์เสียชื่อเสียงว่า “ตนขอโทษทางโรงพยาบาลป.แพทย์และทางคุณหมอ ที่ตนทำลงไปวันนั้นคือ ไม่รู้ว่าจะไปหาคำตอบได้จากใคร จึงใช้โรงพยาบาล เพราะผู้หญิงไม่ยอมบอกว่ามันคืออะไร แต่ตนก็รู้แล้วว่าภรรยาโกหก จึงได้มาที่โรงพยาบาลมาทำแบบนี้ เพราะทาง รพ.คงไม่ยอมปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้เพราะเป็น รพ.ที่มีชื่อเสียง”

“ตนขอโทษที่ทำไปโดยขาดสติ รู้สึกโง่มาเป็นปี และไม่ได้มีใครจ้างเพื่อมาทำลายชื่อเสียงโรงพยาบาลป.แพทย์ ขอเอาอาชีพตำรวจเป็นประกัน เพราะเป็นอาชีพที่ฝันมาตั้งแต่เด็กไม่เอามาเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้แน่นอน วันนั้นที่ไปโวยวายไม่ฟังใครทั้งนั้นจะหาแต่หมออย่างเดียว ยอมรับเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ผมมีเหตุผลถ้าวันนั้นมีใครให้คำตอบได้ ยอมรับโง่เองครับ เพราะฝ่ายหญิงโกหกทุกเรื่องเป็นใครก็คงไม่ยอมลูกตายแล้วเอาไปเผา บอกมีเซ็นต์ยินยอมด้วย โดยที่ตนไม่ทราบเรื่องจึงโมโหว่าทำไม่บอก เพราะตนเป็นพ่อ”

“สรุปคือโดนภรรยาหลอกทุกคน ตนอยู่ด้วยความรับผิดชอบ วันที่นัดมาคลอด ตนเข้ารพ.ให้น้ำเกลือด้วย คิดว่าอาจโดนวางยา ทั้งแม่ภรรยาและตนเอง มันมีคำตอบให้ทุกคำถามแล้วครับ ผู้หญิงถ่ายรูปส่งมาให้ดูตลอด ตัวเองก็เห่อลูก หลงลูก  ดีใจถึงขนาดว่าไปซื้อมอเตอร์ไซค์ไว้รอแล้ว ถ่ายแต่รูปท้องมาให้ดู จึงไม่คิดเลยว่าเป็นเรื่องโกหก” สตต.อุกฤษ กล่าว