ผอ.โรงพยาบาลมทส. ชี้แจงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาดทั่วโลก จำเป็นต้องปิดสาขาในห้างเดอะมอลล์โคราชชั่วคราว ต้องย้ายแพทย์ไปสาขาใหญ่ ช่วงไวรัสระบาดเพื่อคนมาห้างสบายใจกลัวมีผู้ป่วยมาเดินห้าง พร้อมเปิดตึกแยกผู้ป่วยโควิด-19โดยเฉพาะ ยันป่วยไข้หวัดใหญ่ตายมากกว่าอย่ากลัวเกินเหตุ งงคนไทยตื่นใช้เจลแค่สบู่ก็ฆ่าเชื้อโรคได้ไม่ป่วยก็ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากาก

โรงพยาบาลในห้างแห่งแรก

หลังจากโรงพยาบาลในห้างแห่งแรกในประเทศ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมปีที่แล้ว “โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สาขาเดอะมอลล์โคราช” แผนกผู้ป่วยนอก (OPD) ตรวจสุขภาพประจำปี รักษาโรคทั่วไป คลินิกเฉพาะทางฯลฯ และ“คลินิกเด็กดี” เปิดทุกวันมีแพทย์ 2 คน รองรับผู้ป่วยและประกันสังคมได้ 150 คนต่อวัน

ประกาศปิดชั่วคราวเหตุโควิด-19

กระทั่งเพจ “โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี” ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 28 ก.พ.63 โดยโพสต์ว่า “แจ้งปิดบริการชั่วคราวแผนกผู้ป่วยนอก รพ.มทส. สาขาเดอะมอลล์ นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 29 ก.พ. 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จะเข้าสู่สภาวะสถานการณ์ปกติ ขออภัยในความไม่สะดวก โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พร้อมเคียงคู่สุขภาพและคุณภาพชีวิต”

ชี้แจงแพทย์ต้องไปรวมสาขาใหญ่

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 63 นายแพทย์ ดร.นิวัฒน์ชัย นามวิชัยศิริกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ต้องปิดชั่วคราวว่า “จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาด โรงพยาบาล มทส.สาขาเดอะมอลล์โคราช จึงได้ปิดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากอัตรากำลังแพทย์ของ รพ.มทส.ที่สาขาใหญ่ ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ เนื่องจากหมอของรพ.มทส.หลายท่านเดินทางไปเมืองฮอกไกโด ไปฮันนีมูน ไปเที่ยว ซึ่งต้องกักตัว 14 วัน จึงไม่มีอัตรากำลังมาให้บริการที่นี่ได้”

เปิดตึกระดมแพทย์สาขาใหญ่รับโควิด-19

“จึงได้โยกทีมแพทย์และพยาบาลจากสาขาเดอะมอลล์ไปให้บริการที่สาขาใหญ่ และเนื่องจากตามนโยบายกระทรวงสาธารณะสุข ที่ให้เปิดคลินิก URI One Stop Service หรือคลินิกโรคทางเดินหายใจ เราจึงต้องเพิ่มอัตรากำลังในการให้บริการคนไข้ที่ป่วยเป็นไข้หวัดแยกจากบริการอื่นๆ จึงทำให้มีตึกในการให้บริการไข้หวัดโควิด-19 เฉพาะโรคนี้ 1 ตึก ซึ่งจะไม่ปะปนกับคนไข้ทั่วไปในอาคารอื่นๆ”

รพ.มทส.มีห้องแยกผู้ป่วยโควิดโดยเฉพาะ

“ซึ่งการตรวจถ้าหากเข้าเกณฑ์ไปประเทศกลุ่มเสี่ยง ร่วมกับมีอาการไข้ ไอ เจ็บหน้าอก เหนื่อย มาตรวจเรามีเต็นท์สุญญากาศให้นอน เพื่อป้องกันเชื้อ มีห้องแยกผู้ป่วยที่ชัดเจน และรอผลประมาณ 6-8 ชั่วโมงก็ทราบผล ซึ่งประกันสังคมสามารถใช้สิทธิ์การรักษาได้”

ป่วยไข้หวัดใหญ่ตายมากกว่าโควิด

“ซึ่งสาขาเดอะมอลล์โคราชก็จะปิดไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย สำหรับโรคโควิด-19 ถ้าเทียบกับไข้หวัดใหญ่ อัตราการตายในบางปีเยอะกว่าโควิด แต่เนื่องจากโควิดเป็นโรคสายพันธุ์ใหม่ และแพร่กระจายเร็ว ติดเชื้อง่ายจึงมีการตื่นตัว แต่ถ้าเทียบอัตราการตายจริงๆ  ตอนนี้เพิ่งเสียชีวิตไป 1 คน อัตราการตาย ถ้าไม่มีโรคประจำตัวเยอะจริงๆจะไม่ค่อยเสียชีวิต”

ปิดสาขาเดอะมอลล์เพื่อคนมาห้างสบายใจ

นายแพทย์ ดร.นิวัฒน์ชัย กล่าวอีกว่า “รพ.มทส.ในห้างเดอะมอลล์ อาจจะเป็นที่วิตกสำหรับผู้มาเดินห้าง อาจจะคิดว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการสุ่มเสี่ยงคล้ายโควิดมารักษาที่นี่ และจะแพร่เชื้อคามจุดสัมผัสต่างๆในห้าง ตรงนี้เราก็เลยตัดปัญหาเป็นอีกสาเหตุที่ต้องปิดชั่วคราวไปด้วย”

ไทยเอาอยู่ผู้สุ่มเสี่ยงรับผิดชอบต่อสังคม

“ส่วนสถานการณ์ประเทศไทย ณ ตอนนี้คิดว่าเอาอยู่ ถ้าทุกคนร่วมมือและมีวินัย มีความรับผิดชอบต่อสังคม สามารถเอาอยู่แน่นอน ถ้าคนไทยช่วยกัน แต่ถ้ามีคนที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ตัวเองมีความเสี่ยงได้รับเชื้อ และยังเดินทางไปที่ต่างๆ ตรงนั้นก็อาจจะกลายเป็น Super Spreader ขึ้นในอนาคตได้ สำหรับวัคซีน คาดว่าภายใน 3-6 เดือนนี้น่าจะมีจากแต่ละประเทศออกมา เนื่องจากองค์การอนามัยโลกเพิ่งประกาศว่าเป็นโรคระบาดใหญ่ของโลก ถึงแม้จีนเอาอยู่ แต่ยังมีประเทศอื่นที่ยังเอาไม่อยู่ ดังนั้นการเดินทางข้ามทวีป ข้ามประเทศต้องมีการเฝ้าระวังเพื่อไม่เป็นการแพร่เชื้อโรคต่างๆต่อไป”

คนไทยตื่นใช้เจลแค่สบู่ก็ฆ่าเชื้อโรคได้

“สำหรับในแถบเอเชียอากาศร้อน และคนไทยล้างมือบ่อย เรารณรงค์กันค่อนข้างมาก เชื่อว่าตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยป้องกันได้ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ช่วยกันดูแลป้องกันตัวเอง ส่วนเรื่องเจลแอลกอฮอล์ที่ยังเข้าใจผิดกันมากไม่จำเป็นมาก ใช้แค่สบู่ทั่วไปก็พอ เพราะสบู่ฆ่าเชื้อโรคได้ดีกว่าเจลอีก เลยเป็นสาเหตุทำให้เจลขาดตลาด ยกเว้นต้องออกไปข้างนอกค่อยพกติดตัว”

ไม่ป่วยก็ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากาก

นายแพทย์ ดร.นิวัฒน์ชัย กล่าวต่อว่า “ส่วนเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย คือ หน้ากากทางการแพทย์มีอยู่ 3 ชั้น โดยชั้นแรกจะสัมผัสกับใบหน้าเรา ชั้นที่ 2 จะเป็นตัวกรอง  ชั้นที่ 3 จะมีสารกันซึมเคลือบอยู่ ซึ่งจะเหมาะกับบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้บริการกับคนไข้ และตัวผู้ที่ป่วย ประชาชนทั่วๆไปที่ไม่ป่วยก็จะได้ประโยชน์น้อยมาก เพราะจะติดจากการสัมผัส หรือละอองจากการไอการจามมากกว่า”

เฉพาะผู้ป่วยต้องใส่หน้ากากอนามัย

“เพราะฉะนั้นในผู้ป่วยที่เป็น สวมใส่หน้ากากอนามัยก็จะป้องกันจากการไอ จาม และป้องกันการแพร่เชื้อเพราะมีสารกันซึมอยู่ ส่วนหน้ากากผ้าถ้าป่วยก็ไม่สามารถป้องกันได้เพราะเชื้อโรคก็จะซึมออกมา ป้องกันได้สำหรับฝุ่นละอองขนาดใหญ่ หรือการป้องกันเล็กๆน้อยๆเท่านั้น”

หน้ากากอนามัยขาดตลาดจริงแต่ยังมีใช้

“สำหรับที่โรงพยาบาล มทส. มีผู้ป่วยสงสัย หรือ PUI ที่เข้ามาหลายท่าน แต่ผลตรวจเป็นลบหมด และให้กักตัว 14 วัน ซึ่งหน้ากากอนามัยทางโรงพยาบาลก็ขาดแคลน แต่เรามีกลุ่มโรงเรียนแพทย์แห่งประเทศไทย รวมตัวและจัดซื้อรวมและกระจายมา ก็ยังไม่ถือว่าเป็นภาวะวิกฤติ ยังมีพอใช้ให้กับบุคลากรทางการแพทย์อยู่ ซึ่งปริมาณการใช้อยู่ที่ 500 ชิ้นต่อวัน” นายแพทย์ ดร.นิวัฒน์ชัย กล่าวทิ้งท้าย