หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา “นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล” เปิดแถลงข่าวลั่น ทีมชาติพัฒน์อยู่ครบ ปัดโดนดูดยุบพรรครวมกับ “พลังประชารัฐ” ยืนยันเลือกตั้ง เมืองโคราชต้องมีชาติพัฒนาร่วมด้วย ย้ำอดีต ส.ส.ยังอยู่ โวสนามเลือกตั้งโคราชจะรักษาฐานเสียงเดิมได้แน่โดยเฉพาะเขตเมืองฐานเสียงแน่น

เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2561 ที่สำนักงานพรรคชาติพัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นำอดีต ส.ส. พรรคชาติพัฒนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค, ส.อบจ. และ ส.ท.กลุ่มโคราชชาติพัฒนา อาทิ นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีต รมว.อุตสาหกรรม และเลขาธิการพรรคฯ, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีต ส.ส., นายสมศักดิ์ พันธุ์เกษม อดีต ส.ส., นายอุทัย มิ่งขวัญ อดีต ส.ส. และ ส.อบจ., นายสมบัติ กาญจนวัฒนา ประธานสภา อบจ.เป็นต้น พร้อมกับแสดงท่าการจับมือไขว่ประสานยืนยันตัวตนที่ยังอยู่กับพรรคชาติพัฒนา พร้อมเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อสยบข่าวยุบพรรคชาติพัฒนาไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐ

นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า “ในนามพรรคชาติพัฒนาขอขอบคุณ คสช.ที่มีการคลายล็อคทางการเมืองให้พรรคการเมืองทั้งหลายสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ ยกเว้นการหาเสียงเลือกตั้งแล้ว และยังเป็นการส่งสัญญาณที่ดีให้แก่ประชาชนทั้งประเทศและคนไทยที่อยู่ต่างประเทศได้ทราบว่านับจากนี้ต่อไปบ้านเมืองเรากำลังเข้าสู่บรรยากาศการเลือกตั้งตามวิถีทางและครรลองระบอบประชาธิปไตยที่เราจะได้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนต่อไป”

“และเราหวังว่า กกต.ชุดใหม่จะทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลางและเป็นธรรม เพื่อให้การเลือกตั้ง ส.ส.เป็นไปด้วยความโปร่งใส สะอาด สุจริต เที่ยงธรรมเป็นที่ยอมรับของประชาชนและทำให้มีความชอบธรรม เพื่อได้ ส.ส.และรัฐบาลที่มีความชอบธรรม สำหรับพรรคชาติพัฒนาเราพร้อมเดินหน้ากิจกรรมทางการเมืองพร้อมอย่างเต็มที่ในการเข้าสู่สนามเลือกตั้งอันใกล้นี้”

 

ตอบข้อถามถึงกระแสข่าวพรรคชาติพัฒนาจะยุบพรรคไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสามมิตรข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนพ.วรรณรัตน์ ตอบว่า “ขณะนี้ขอยืนยันเลยว่า พรรคชาติพัฒนายังดำรงความเป็นพรรคชาติพัฒนาอยู่และเราพร้อมดำเนินการทางการเมืองต่อไป ไม่ได้ยุบไปไหนแน่นอน ตนยืนยันว่าเลือกตั้งครั้งหน้านี้มีพรรคชาติพัฒนา พรรคของคนโคราชอย่างแน่นอน ยืนยันตรงนี้”

“ส่วนเรื่องพรรคพลังประชารัฐหรือกลุ่มสามมิตรดูดอดีต ส.ส.ไปหลายคนนั้น ตนเรียนว่าเรื่องของพรรคอื่นเราไม่ทราบ แต่พรรคของเรายังอยู่ครบ ส่วนการชูนโยบายในการนำเสนอประชาชนนั้น ตอนนี้กฎหมายยังไม่เปิดช่องให้เราหาเสียงเลือกตั้งได้ แต่ถ้าเมื่อเปิดโอกาสให้มีการรณรงค์หาเสียงได้เราคงได้มีโอกาสชี้แจงถึงนโยบายพรรคต่อไป”

“ทั้งนี้เขตเลือกตั้ง จ.นครราชสีมา 14 เขตเราเตรียมไว้ทุกเขตพร้อมเสมอ และไม่อยากจะพูดถึงเป้าหมายจำนวน ส.ส.ที่จะได้ก็คิดว่าเราพยายามทำให้ดีที่สุดดีกว่า เราเชื่อมั่นว่าประชาชนในโคราชที่เป็นฐานเสียงที่สำคัญของพรรคและให้การสนับสนุนเราตลอด ตนว่าเราคงจะได้รับความสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากชาวโคราชต่อไป ส่วนจะได้กี่เสียงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนเป็นสำคัญ”

“ส่วนเขต 1 เมืองหลวงของพรรคชาติพัฒนามีความพร้อม โดยเฉพาะนายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีต ส.ส.ของเรา ที่พี่น้องประชาชนให้การสนับสนุนพรรคของคนโคราชอยู่แล้วและพี่น้องชาวโคราชได้มีส่วนร่วมที่พลเอกชาติชาย ชุณหะวัน และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ก่อตั้งพรรคขึ้นมากว่า 20 ปีมาแล้ว”

“ส่วนความหวั่นไหวเรื่องแรงดูดนั้น เราไม่หวั่นไหว เพราะเรามีความมั่นคงที่จะดำเนินการของเราต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง และอดีต ส.ส.ของพรรคชาติพัฒนาทุกคน ณ ขณะนี้ยังอยู่กันครบ ส่วนการหารือกับนายสุวัจน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคฯนั้น ตอนนี้เรายังไม่มีเวลาคุยกันเลย ส่วนคนที่สนใจจะเข้ามาร่วมกับเราก็ยินดี เพราะเราเปิดกว้างอยู่แล้ว และขณะนี้สมาชิกพรรคที่ยืนยันเข้ามาแล้วประมาณกว่า 30% ถือเป็นพรรคที่มีสัดส่วนของสมาชิกมายืนยันมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง เรามีสมาชิกกว่า 18,000 คนเศษมีมายืนยันกว่า 5,000 คนเศษหรือ 1 ใน 3”

นพ.วรรณรัตน กล่าวด้วยว่า “กรณีที่มีการเก็บบัตรประชาชนเพื่อนำไปเป็นสมาชิกของบางพรรค สำหรับพรรคชาติพัฒนาคิดว่าไม่เป็นปัญหา เพราะประชาชนมีอิสรเสรีภาพในการตัดสินใจอยู่แล้ว การที่ประชาชนจะไปสมัครพรรคอื่นเป็นสิทธิของเขาที่ย่อมทำได้อยู่แล้ว ฉะนั้นตนมีความเชื่อมั่นว่า ประชาชนที่ยังยึดมั่นในพรรคชาติพัฒนาก็ยังคงให้การสนับสนุนเราต่อไป”

“ส่วนแบ่งเขตเลือกตั้งอาจจะมีการได้เปรียบเสียเปรียบนั้น ตนคิดว่าอันนั้นเป็นเหตุผลอันหนึ่ง เพราะว่า เดิมเรามี 15 เขต เวลานี้ลดเหลือ 14 เขต และเขตมีการเปลี่ยนแปลง เขตใหญ่ขึ้น เปลี่ยนแปลงมากขึ้น ตรงนี้หลายฝ่ายมีความกังวลอยู่บ้างในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม กกต.ใช้หลักเกณฑ์การแบ่งที่มีความเป็นธรรม มีเหตุมีผลแล้วตนคิดว่า ถ้าเป็นการแบ่งอย่างเหมาะสม ถูกต้องเป็นธรรมแล้วเราก็ไม่น่าจะกังวลอะไรมาก และการเปิดโอกาสให้เข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นก็คงจะเข้าไปร่วมด้วย” นพ.วรรณรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย